โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้ ส.ต.ต. เสนอกับพวกปล้นเงินกรมรถไป แต่เจ้าพนักงานจับได้ก่อนความผิดเกิดขึ้น และจำเลยมีปืนเบรานิง ๑ กะบอกโดยมิได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ มีผิดตามมาตรา ๑๗๔ กฏหมายลักษณอาญาและ พ.ร.บ.อาวุธปืนมาตรา ๕๒ ส่วนจำเลยที่ ๒ ไม่ผิด
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฏีกาศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงได้ความชัดว่าจำเลยใช้พวกให้ไปปล้นเพราะพวกที่รับใช้มีถึง ๓ คน อาวุธปืนที่มีไว้ก็สั่งให้ใช้ทำร้ายในเวลาทำการจึงเข้าเกณฑ์ปล้น และเป็นการใช้ให้ทำการปล้น จึงมิใช่คั้นเตรียมการ ส่วนที่ปรากฏว่าพวกผู้รับใช้เกิดกลับใจ การกลับใจของผู้รับใช้ก็ไม่ทำให้ผู้ใช้พ้นผิด ทั้งยังได้ความว่าจำเลยไม่รู้ถึงการกลับใจของผู้รับใช้ ยังคงเจตนาใช้ตลอดมาจนถูกจับ ย่อมมีผิดตามมาตรา ๑๗๔ จึงพิพากษายืน