คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2520

ศาลอนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์ไปตามความจำเป็นของโจทก์บ้างจำเลยบ้างหลายนัด ครั้นต่อมาโจทก์จำเลยแถลงว่าคดีมีทางตกลงกันได้ขอเลื่อนไปนัดพร้อมกันอีกนัดหนึ่ง ศาลสั่งให้เลื่อนไปนัดพร้อมหรือนัดสืบพยานโจทก์ ครั้งถึงวันนัดโจทก์จำเลยมาศาลแถลงว่าตกลงกันไม่ได้ ศาลจึงดำเนินการสืบพยานโจทก์ไปในวันนั้นเพียงโจทก์อ้างตัวเองปากเดียว ส่วนพยานอื่นไม่มา โจทก์ขอเลื่อนไปสืบพยานโจทก์ต่อไปในนัดหน้า ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนและงดสืบพยานโจทก์ต่อไปเสีย ดังนี้ แม้จะมีการเลื่อนมาหลายนัดแล้วก็ตามศาลก็ได้อนุญาตโดยเห็นพ้องตามความจำเป็นของโจทก์บ้าง จำเลยบ้าง เฉพาะคราวหลังก่อนนัดที่มีการสืบพยานโจทก์ โจทก์จำเลยขอให้นัดพร้อม แต่ศาลสั่งนัดพร้อมหรือนัดสืบพยานโจทก์เป็นสองกรณีซึ่งไม่แน่ว่าจะได้สืบพยานโจทก์หรือไม่ จะถือว่าเป็นความผิดของโจทก์ที่ไม่ขอหมายเรียกหรือไม่นำพยานมาศาลเสียทีเดียวก็ไม่ถนัด และจำเลยก็มิได้คัดค้าน ทั้งในวันนั้นศาลออกนั่งพิจารณาเมื่อเวลา 15.35 น. สืบตัวโจทก์ปากเดียวก็หมดเวลาหรือเกือบหมดเวลาราชการแล้ว ถ้าพยานโจทก์อื่นมาศาลก็คงต้องเลื่อนไปสืบต่อนัดหน้าอยู่นั่นเอง จึงสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ต่อในนัดหน้าได้

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองบุกรุกเข้าไปทำรั้วลวดหนามในที่ดิน น.ส.๓ ของโจทก์บางส่วนและถอนต้นจาก ต้นมะพร้าวของโจทก์ทิ้ง ขอให้พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ให้จำเลยรื้อถอนรั้วออกไป

จำเลยทั้งสองให้การว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยทั้งสองโดยครอบครองมากว่า ๔๐ ปีแล้ว โจทก์ไม่เคยเข้าครอบครอง โจทก์ได้ น.ส.๓ มาโดยมิชอบ จำเลยมิได้ร่วมกันถอนต้นจาก ต้นมะพร้าวของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปได้ปากเดียวเฉพาะโจทก์อ้างตัวเองเป็นพยาน แล้วสั่งงดสืบพยานอื่นของโจทก์ที่ไม่มาศาลในวันนัด และเลื่อนไปสืบพยานจำเลยต่อจนเสร็จ แล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีเดียวกันได้ ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความแต่พยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์นั้นไม่ชอบ พยานโจทก์เท่าที่สืบมาฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานอื่นของโจทก์ต่อไป กับสืบพยานจำเลยแล้วพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยในข้อที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ว่า คดีนี้แม้จะมีการเลื่อนมาหลายนัดแล้วก็ตาม ศาลได้อนุญาตโดยเห็นพ้องตามความจำเป็นของโจทก์บ้าง จำเลยบ้างอยู่แล้ว เฉพาะคราวหลังก่อนนัดที่มีการสืบพยานโจทก์ โจทก์จำเลยขอให้นัดพร้อม แต่ศาลสั่งนัดพร้อมหรือนัดสืบพยานโจทก์เป็นสองกรณีซึ่งไม่แน่ว่าจะได้สืบพยานโจทก์หรือไม่ จะถือว่าเป็นความผิดของโจทก์ที่ไม่ขอหมายเรียกหรือไม่นำพยานมาศาลเสียทีเดียวก็ไม่ถนัด อย่างไรก็ดีเมื่อตกลงกันไม่ได้ก็มีการสืบพยานตามที่นัดไว้แล้วไปบ้างในวันนั้น ส่วนพยานอื่นโจทก์ขอเลื่อนไปสืบนัดหน้าจำเลยก็มิได้คัดค้านอย่างไร สมควรที่จะอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ต่อในนัดหน้าได้ อีกประการหนึ่งวันนั้นศาลออกนั่งพิจารณาคดีเมื่อเวลา ๑๕.๓๕ นาฬิกา สืบตัวโจทก์ปากเดียวก็หมดเวลาหรือเกือบหมดเวลาในวันนั้นแล้ว แม้พยานโจทก์อื่นมาศาลก็คงต้องเลื่อนไปสืบพยานโจทก์ต่อในนัดหน้าอยู่นั่นเอง จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะสั่งงดสืบพยานโจทก์ที่ไม่มาศาล และไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีไป

พิพากษายืน