โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทในต่างประเทศ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๖ บริษัทจำเลยได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าใหม่ เป็นรูปเสืออยู่ใต้ต้นมะพร้าวภายในวงกลม สองข้างวงกลมมีอักษรโรมันคำว่า "TIGER" อยู่ข้างซ้าย และ "BRAND" อยู่ข้างขวา ใต้วงกลมมีอักษรโรมันว่า "LAGER BEER" ใช้แก่เบียร์น้ำสีเหลืองอันเป็นสินค้าจำพวก ๔๓ และได้มีการต่ออายุครั้งสุดท้ายเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๖ โดยที่บริษัทจำเลยไม่ได้ส่ง
เบียร์รูปเสือเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๙ จนกระทั่งปัจจุบันนี้เป็นเวลา ๑๐ ปีแล้ว ถือได้ว่าในระหว่าง ๕ ปีก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้จำเลยมิได้มีการใช้โดยสุจริตซึ่งเครื่องหมายการค้าอันได้จดทะเบียนและต่ออายุดังกล่าว ชอบที่บุคคลที่ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ามีรูปเสือ มีสิทธิจะฟ้องร้องขอให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นเสียตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พุทธศักราช ๒๔๗๔ มาตรา ๔๒ บริษัทโจทก์ตั้งโรงงานผลิตและจำหน่ายเบียร์น้ำสีเหลือง (LAGER BEER) เครื่องหมายการค้าเป็นรูปเสืออยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า รูปเสือตัวใหญ่กว่า ก้มหัวจ้องมองเข้าหาพวงองุ่น บนตัวเสือมีอักษรโรมันว่า "TIGER" และมีคำว่า "LAGER BEER" อยู่ข้างใต้ โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวแต่นายทะเบียนยังไม่ยอมพิจารณา เพราะยังมีเครื่องหมายการค้าของจำเลยอยู่ เครื่องหมายการค้าของบริษัทและโจทก์จำเลยแม้จะใช้รูปเสือด้วยกัน แต่มิได้เหมือนหรือคล้ายกัน ไม่ทำให้ประชาชนหลงผิด โจทก์ยังจดทะเบียนไม่ได้ต้องเสียหาย จึงขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและการต่ออายุของจำเลย และพิพากษาแสดงว่าเครื่องหมายการค้าตามคำขอของโจทก์และจำเลยไม่เหมือนหรือคล้ายกัน
จำเลยให้การว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์เลียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่จดทะเบียนไว้แล้ว และบริษัทจำเลยไม่เคยตั้งใจหรือละทิ้งเครื่องหมายการค้าของบริษัทจำเลย โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนโดยไม่สุจริต แต่ก็ยังไม่ได้รับการพิจารณาจากนายทะเบียนและนายทะเบียนยังไม่ได้มีคำปฏิเสธที่จะไม่รับจดทะเบียนให้โจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า เครื่องหมายการค้าของจำเลยตามฟ้องไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่โจทก์ขอจดทะเบียน ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับคำขออื่น
โจทก์และจำเลยต่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายืนในผลที่ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตราเสืออยู่ก่อน ขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตราเสือของจำเลย โดยอ้างเหตุว่าจำเลยจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้โดยมิได้ตั้งใจสุจริตที่จะใช้เป็นเครื่องหมายการค้านั้น และทำให้โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตราเสือไม่ได้ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบีนเครื่องหมายการค้าตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พุทธศักราช ๒๔๗๔ นั้น ถ้าเป็นกรณีตามมาตรา ๑๖ ก็เป็นเรื่องนายทะเบียนมีหนังสือปฏิเสธไม่ยอมรับจดทะเบียน เพราะเหมือนกับเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้แล้ว หรือมีการโต้แย้งคัดค้านการขอจดทะเบียนตามมาตรา ๒๒, ๒๓ อันเป็นการโต้แย้งสิทธิกัน ส่วนกรณีที่จะขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนโดยอ้างเหตุตามมาตรา ๔๒ คือจดทะเบียนไว้โดยมิได้ตั้งใจสุจริตที่จะใช้เครื่องหมายการค้านั้น ก็ต้องมีการโต้แย้งสิทธิและทำเป็นคำฟ้องเช่นเดียวกัน (คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๒๓/๒๕๐๔ ระหว่างนายเซียะลิ้ม แซ่ซิ้ม ผู้ร้อง) แต่คดีนี้ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์มีเพียงว่า นายทะเบียนไม่ยอมพิจารณาคำขอจดทะเบียนของโจทก์ ไม่ปรากฏว่านายทะเบียนปฏิเสธไม่ยอมรับจดทะเบียนตามมาตรา ๑๖ และไม่ปรากฏว่าจำเลยคัดค้านการขอจดทะเบียนของโจทก์ตามมาตรา ๒๒ ส่วนที่โจทก์ฟ้องอ้างเหตุตามมาตรา ๔๒ นั้น การฟ้องตามมาตรานี้ เป็นกรณีที่โจทก์จะใช้เครื่องหมายการค้าแบบที่จำเลยจดทะเบียนไว้ก่อน แต่คดีนี้โจทก์กลับบรรยายฟ้องอีกว่า เครื่องหมายการค้าตราเสือที่โจทก์ขอจดทะเบียนนั้น ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าตราเสือที่จำเลยจดทะเบียนไว้ ดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย คดีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของโจทก์อีกต่อไป
พิพากษายืน