โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไปแล้วไม่ใช้ให้  ขอให้ศาลบังคับ
ก่อนจำเลยให้การ  โจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องว่า  เงินกู้ตามสัญญาที่ฟ้องนี้  เดิมสามีจำเลยกับบุตรเขยจำเลยกู้เงินโจทก์ไป  ต่อมาสามีจำเลยตาย  จำเลยเป็นผู้รับมรดก  ได้ยอมรับรองหนี้รายนั้น  และให้ทำสัญญากู้ใหม่ใส่ชื่อจำเลยเป็นผู้กู้
จำเลยให้การและเพิ่มเติมคำให้การว่าจำเลยไม่เคยทำสัญญากู้เงินโจทก์  สามีและบุตรเขยจำเลยเคยเป็นหนี้โจทก์ไม่ถึงจำนวนตามที่ฟ้อง  และจำเลยขายที่ดินให้โจทก์เป็นการหักหนี้แล้ว  ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์  ศาลอุทธรณ์  พิพากษายืน
จำเลยฎีกาข้อกฎหมายว่า  ๑.  โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินและรับเงินไปแล้วแต่วันทำสัญญา  แล้วมาขอแก้ไขฟ้องว่าจำเลยไม่ได้กู้  ไม่ได้รับเงินและนายดำสามีเป็นผู้กู้  เป็นการตรงข้ามและคนละเรื่องกับฟ้องเดิม  ขัดกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาแพ่ง มาตรา ๑๗๙
๒.  ที่ศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งไว้จึงอุทธรณ์ไม่ได้นั้นไม่ถูก   เพราะเมื่อจำเลยได้รับสำเนาคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องนั้น  ศาลชั้นต้นได้สั่งอนุญาตไว้แล้วโดยไม่ได้สอบถามจำเลย
๓.  สัญญากู้ท้ายฟ้องบอกชัดว่า  เป็นสัญญากู้ระหว่างโจทก์กับจำเลย  ไม่มีข้อความพออนุมานได้ว่าเป็นการแปลงหนี้ใหม่หรือรับสภาพหนี้เดิม   โจทก์จะนำสืบเปลี่ยนแปลงเอกสารว่าความจริงไม่มีการรับเงินกันตามสัญญาไม่ได้
๔.  ตามสัญญากู้ที่โจทก์อ้างนั้น  ปรากฎว่าจำเลยได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือ  กฎหมายบัญญัติว่าจะต้องมีพยานรับรองอย่างน้อย ๒ คน  และพยาน ๒ คนนั้นจะต้องมาเบิกความยืนยันด้วย  โจทก์อ้างพยานมาสืบปากเดียว  ศาลไม่ควรรับฟัง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
๑.  โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินไป  แล้วยื่นคำร้องแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องก่อนจำเลยให้การ  ว่ากรณีเดิมสามีและบุตรเขยจำเลยกู้เงินโจทก์  แล้วจำเลยยอมทำสัญญารับใช้หนี้ให้  ดังนี้  เป็นการอธิบายถึงสาเหตุที่จำเลยทำสัญญากู้ให้  โจทก์แก้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  มาตรา ๑๗๙  (๒)
๒.  เมื่อจำเลยให้แก้ข้อหาในคำร้องเพิ่มเติมฟ้อง  จำเลยมิได้โต้แย้งหรือคัดค้านไว้  เพิ่งมาว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์  จึงฟังไม่ขึ้น
๓.  เมื่อโจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่ากรณีเดิมสามีและบุตรเขยจำเลยกู้ไป  โจทก์ก็ยอมนำสืบตามนั้นได้  มิได้สืบเปลี่ยนแปลงเอกสาร
๔.  สัญญากู้มีพยานเซ็นรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ ๒ คนครบถ้วนตามกฎหมายแล้ว  แต่โจทก์ไม่จำต้องนำมาสืบทุกคน
พิพากษายืน