คดี 3 สำนวนนี้เรื่องแรกโจทก์ฟ้องว่าจำเลยถือท้ายควบคุมเรือยนต์โดยไม่มีประกาศนียบัตร สองเรื่องหลังโจทก์ฟ้องว่าจำเลยถือท้ายเรือยนต์ชนเรือของโจทก์ชำรุดเสียหาย
จำเลยทั้งสามคดีให้การปฏิเสธและคดีหลังตัดฟ้องว่าคดีขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับ น.ส.เน้ยจำเลยในคดีแรก 100 บาทตามพระราชบัญญัติเดินเรือในน่านน้ำไทย ฉบับ พ.ศ. 2456 มาตรา 282 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2477 มาตรา 3 และ กฎหมายอาญา มาตรา 18กับให้ยกฟ้องโจทก์สองคดีหลัง
น.ส.เน้ยจำเลยคดีแรก โจทก์สองคดีหลังอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนในคดีแรก ส่วน 2 คดีหลังให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วให้พิพากษาใหม่
น.ส.เน้ยจำเลยในคดีแรกและคดีที่ 2 กับนายยงจำเลยในคดีหลังฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยในปัญหาข้อ ก.ม.ว่าปัญหาข้อ ก.ม.ที่ว่าน.ส.เน้ยจะจับต้องพวงมาลัยถือท้ายก็อยู่ในความรับผิดชอบของนายสมบัติซึ่งเป็นนายท้ายเรือมีประกาศณียบัตรรับรองความรู้โดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นผู้ควบคุมเรืออยู่ น.ส.เน้ยย่อมไม่มีความผิดตามฟ้องปัญหาข้อ กฎหมายดังกล่าว น.ส.เน้ยมิได้ยกข้อต่อสู้ในศาลชั้นต้นและก็มิใช่เป็นข้อ กฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย หรือที่เกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอันว่าด้วยอุทธรณ์น.ส.เน้ยผู้อุทธรณ์ยกขึ้นอ้างไม่ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195
ศาลฎีกาเห็นว่านายทองอยู่มีอำนาจร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 123, 124 และพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120, 121 เพราะนายทองอยู่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) โดยนายทองอยู่เป็นผู้เช่าเรือยนต์ศรีมหาโลกมาทำการหาผลประโยชน์เป็นผู้ดูแลรักษาทรัพย์และรับผิดชอบในทรัพย์ที่เช่ามานี้ ระหว่างเช่า ทั้งนายทองอยู่ยังมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในฐานะ เป็นผู้เสียหายอีกด้วยตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28(2) ฎีกา น.ส.เน้ยจำเลยฟังไม่ขึ้น
ส่วนฎีกาของนายยงศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่านางแถวโจทก์ได้เข้าร่วมในการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานของ น.ส.เน้ยและนายสมบัติกล่าวหาว่านายยงเป็นฝ่ายถือท้ายเรือยนต์ศรีมหาโลกแล่นชนเรือยนต์สมบัติพวงทองของนางแถวจนนางแถวฝ่ายหนึ่งและนายทองอยู่อีกฝ่ายหนึ่งได้ร่วมกันตรวจบันทึกความชำรุดเสียหายของเรือทั้งสองลำกับเจ้าพนักงานสอบสวนด้วยแล้วเช่นนี้ ถือได้ว่าคดีของนางแถวมีการร้องทุกข์ความประสงค์แห่ง กฎหมายอาญา มาตรา 80 ภายใน 3 เดือนก่อนฟ้องแล้วไม่ขาดอายุความ ซึ่งข้อเท็จจริงศาลฎีกาจะต้องฟังตาม แต่ในข้อที่ว่า น.ส.เน้ยและนายสมบัติไม่ได้ร้องทุกข์ให้ถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 121, 123 เพราะไม่ได้ลงชื่อไว้ต้องถือว่ายังไม่ได้มีการร้องทุกข์ โจทก์นำคดีมาฟ้องเกิน 3 เดือนแล้วจึงขาดอายุความฟ้องร้องตาม กฎหมายอาญา มาตรา 80 นั้น ไม่มีประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาเกี่ยวกับเรื่องไม่ลงลายมือชื่อในการร้องทุกข์ฎีกานายยงจำเลยเป็นอันตกไป
จึงพิพากษายืน