โจทก์ฟ้องว่านายเลโอนาร์ดอาร์ซาเกอร์ได้ติดต่อกับธนาคารอเมริกันเสตท ณ แคลิฟอร์เนียสหรัฐอเมริกาขอให้ส่งเงินจำนวน30,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกามายังธนาคารโจทก์ซึ่งเป็นสาขาในประเทศไทยเพื่อเข้าบัญชีให้แก่จำเลยปรากฏว่าธนาคารสำนักงานใหญ่แจ้งว่ามีการส่งเงินดังกล่าวให้เข้าบัญชีของจำเลยถึง 2ครั้งแต่ความจริงมีเพียงครั้งเดียวจำเลยใช้เช็คเบิกเงินตามที่เข้าบัญชีไปซ้ำซ้อนเกินกว่าสิทธิที่จะเบิกได้ เป็นการเบิกเงินเกินบัญชีไปจากโจทก์โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ในจำนวนเงินที่ซ้ำกัน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาเท่ากับเงินไทย611,550 บาทจำเลยจึงต้องคืนเงินจำนวนนี้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงินจำนวน 693,103.97 บาทให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงิน 611,550 บาทตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ จำเลยไม่มีหนี้สินภาระใด ๆ ติดค้างกับโจทก์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 693,103.97 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 611,550 บาทนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า 'ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์อ้างว่าจำเลยผิดสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีและเรียกเงินคืนจำนวน 693,103.97 บาทแต่ในฟ้องไม่ปรากฏสัญญาใด ๆ นั้นเห็นว่าโจทก์ได้กล่าวมาในฟ้องว่านายเลโอนาร์ดอาร์ซาเกอร์ส่งเงินให้จำเลยเพียงครั้งเดียว จำนวน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาคิดเป็นเงินไทย611,550 บาทจำเลยสั่งจ่ายเช็คเบิกเงินไปจากธนาคารโจทก์ซ้ำซ้อนและเกินบัญชีกระแสรายวันของจำเลยไปเป็นเงิน 611,550 บาทการที่จำเลยเบิกเงินไปมากกว่าจำนวนเงินที่จำเลยมีอยู่ในบัญชีเป็นการเบิกเงินเกินบัญชีจำเลยจึงต้องใช้เงินจำนวนดังกล่าวคืนตามกฎหมาย คำฟ้องของโจทก์จึงอ้างเหตุที่จำเลยจะต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่โจทก์เพราะเบิกเงินไปจากธนาคารโจทก์ซ้ำซ้อนจากเงินที่จำเลยได้รับจากนายเลโอนาร์ดอาร์ซาเกอร์โจทก์ไม่ได้ฟ้องว่าจำเลยเบิกเงินเกินบัญชีตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี โจทก์จึงไม่ต้องมีหนังสือสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีเป็นหลักฐานในการฟ้องจำเลยดังที่จำเลยโต้แย้งมาในฎีกา
ปัญหาต่อไปที่ว่า ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความหรือไม่นั้นเห็นว่าธนาคารโจทก์ได้รับหนังสือลงวันที่ 11 มิถุนายน 2524 จากธนาคารอเมริกันสเตทซึ่งแจ้งว่านายเลโอนาร์ดอาร์ซาเกอร์ได้โอนเงินให้แก่จำเลยจำนวน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาเพียงครั้งเดียว และธนาคารอเมริกันสเตทได้แนบหนังสือของนายเลโอนาร์ดอาร์ซาเกอร์มาด้วย ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.12 และจ 11 ตามลำดับ จึงแสดงว่าธนาคารโจทก์เพิ่งทราบจากหนังสือดังกล่าวว่านายเลโอนาร์ดโอนเงินให้แก่จำเลยเพียงครั้งเดียว เมื่อจำเลยได้รับเงินที่นายเลโอนาร์ดโอนให้แก่จำเลยไปจากธนาคารโจทก์รวม 2 ครั้งการรับโอนเงินครั้งที่ 2 จึงเป็นการรับเงินโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยคืนเงินจำนวนดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2524 ซึ่งไม่เกินระยะเวลา 1 ปีนับตั้งแต่โจทก์ได้รับทราบตามหนังสือเอกสารหมาย จ.12 และ จ.11 ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 419'
พิพากษายืน.