โจทย์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันตวงข้าวเปลือกของโจทก์ไปรวม ๗ เกวียนเศษ ราคา ๖๓๐๐ บาท ทั้งนี้เป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้จำเลยคืนข้าวเปลือกหรือใช้ราคา
จำเลยที่ ๔ ให้การว่าจำเลยแบ่งเอาข้าวเปลือกของจำเลยกับมารดาไปเพียง ๔๐๐ ถังและข้าวเหนียว ๕ ถัง จำเลยนั้นปฏิเสธความรับผิด
ศาลชั้นต้นเห็นว่าข้าวเปลือกรายนี้จำเลยที่ ๔ มีส่วนเป็นเจ้าของร่วมด้วย มีสิทธิขอแบ่งจำเลยที่ ๔ เอาไปเพียง ๔ เกวียนอันเป็นจำนวนพอสมควร จำเลยที่ ๑-๒ เป็นผู้ไปควบคุมตามหน้าที่ของทางการ จำเลยที่ ๓-๕-๖-๗-๘ เป็นผู้ที่จำเลยที่ ๙ จ้างไปช่วยตวง จำเลยที่ ๔ ไม่ได้เกี่ยวข้องจึงพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าแม้จำเลยที่ ๔ จะเป็นเจ้าของข้าวด้วยและสิทธิ ขอแบ่งได้ก็ดี แต่เวลานั้นจำเลยที่ ๔ แยกไปอยู่ที่อื่นแล้ว และข้าวเหล่านั้นอยู่ในความครอบครองของโจทก์ จำเลยที่ ๘ จะมายื้อแย่งเอาโดยพลการโดย โจทก์ไม่ยินยอมไม่ได้ จำเลยที่ ๙ เอาไปเกินส่วนของตนไป ๑ เกวียน ๓๓ ถังและฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ ๓-๕-๖-๗-๘ ได้รู้แล้วว่าข้าวเป็นของโจทก์แล้วยังขืนล่วงละเมิดกับจำเลยที่ ๙ จำเลยเหล่านี้จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ ๙ ด้วย
พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ ๓-๕-๖-๗-๘-๙ คืนข้าวเปลือกให้โจทก์ ๑ เกียวน ๓๓ ถัง หรือใช้ราคาเกวียนละ ๙๐๐ บาท นอกจากนี้คงยืน