โจทก์ยื่นคำร้องว่า  โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมของหม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์  ซึ่งถึงชีพิตักษัย  เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๑๐  โจทก์เป็นผู้มีสิทธิได้รับมรดกทั้งหมดตามพินัยกรรมแต่ผู้เดียว  ขณะที่หม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์มีชีวิตอยู่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของหม่อมเจ้าหญิงทราบศิริมาน  ตามคำสั่งของศาลแพ่ง  หม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์  ได้จัดการแบ่งปันทรัพย์มรดกทั้งหมดของหม่อมเจ้าหญิงทราบศิริมาน  ให้แก่ทายาททุกคนเรียบร้อยแล้ว  แต่ยังมีมรดกที่ดินโฉนดเลขที่ ๑  ตำบลบางขุนพรหม  มีชื่อนายประทีป  เดชอุดม  และหม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์  ผู้จัดการมรดกของหม่อมเจ้าหญิงทราบศิริมาน  ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันอย่างคนละครึ่ง  ที่ดินส่วนของหม่อมเจ้าหญิงทราบศิริมาน  ซึ่งมีชื่อหม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์  ผู้จัดการมรดกนั้น  หม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์ผู้เป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิได้รับมรดกแต่ผู้เดียว  ได้ครอบครองที่ดินมา ๑๔ ปีเศษแล้ว  แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนขอรับมรดกเท่านั้น  เมื่อหม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์ถึงชีพิตักษัย  ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกทั้งหมดให้โจทก์แต่ผู้เดียวโจทก์ไปขอรับมรดก  เจ้าพนักงานที่ดินไม่ยอมจดทะเบียนให้ เพราะหม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์จัดการมรดกของหม่อมเจ้าหญิงทราบศิริมานยังไม่เสร็จ  เมื่อโจทก์จะขอรับทรัพย์มรดกของหม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์ตามพินัยกรรม  ก็ต้องร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของหม่อมเจ้าหญิงทราบศิริมานก่อน  จึงขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของหม่อมเจ้าหญิงทราบศิริมานต่อไป
พันตำรวจโทหม่อมราชวงศ์ดิลกลาภ  ทวีวงศ์  จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านว่า  จำเลยเป็นทายาทโดยธรรมของหม่อมเจ้าหญิงทั้งสองนั้น  โดยพระบิดาเป็นพระญาติร่วมพระบิดากับหม่อมเจ้าหญิงทั้งสอง  หม่อมเจ้าหญิงทั้งสองไม่มีสามีและบุตรธิดา  ไม่มีพระญาติร่วมบิดามารดา  พระบิดาของจำเลยก็ถึงชีพิตักษัยไปก่อนแล้ว  ทรัพย์มรดกของหม่อมเจ้าหญิงทราบศิริมาน  ซึ่งอยู่ในการจัดการของหม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์  ที่ยังจัดการไม่เสร็จคือที่ดินโฉนดที่ ๑  ซึ่งหม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์มีส่วนได้รับมรดกเพียง ๑ ใน ๗ ส่วน  นอกนั้นตกเป็นของทายาทอื่น  ทรัพย์ดังกล่าวอยู่ในระหว่างจัดการมรดก  ไม่มีผลให้หม่อมเจ้าหญิงพาณีอนงค์  มีกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียว  จำเลยก็เป็นผู้มีสิทธิได้รับมรดก  ในที่ดินแปลงนี้ด้วย  โจทก์มิได้เป็นทายาทโดยธรรมของหม่อมเจ้าหญิงทั้งสองนั้น  พินัยกรรมที่โจทก์อ้างก็ไม่สมบูรณ์  โจทก์ไม่มีฐานะเป็นทายาทที่จะได้รับมรดกตามพินัยกรรมนั้น  ไม่สมควรจะเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้  ขอให้ยกคำร้องของโจทก์  แล้วตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้
ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ไม่ได้เป็นทายาทของหม่อมเจ้าหญิงทราบศิริมาน  ส่วนจำเลยเป็นทายาท  และไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามมาตรา ๑๗๑๘  และเห็นสมควรแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก  จึงมีคำสั่งแต่งตั้งให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของหม่อมเจ้าหญิงทราบศิริมาน
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า  คำว่าผู้มีส่วนได้เสียตามมาตรา ๑๗๑๓  แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  หาจำเป็นต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทางมรดกหรือในทางพินัยกรรมของผู้มรณะโดยตรง  ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่  ใครก็ตามที่มีส่วนได้เสียในกองมรดกเช่นโจทก์คดีนี้ก็ชอบที่จะขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกของหม่อมเจ้าหญิงทราบศิริมานได้  แต่การที่ศาลจะตั้งใครเป็นผู้จัดการมรดกนั้นต้องคำนึงถึง มาตรา ๑๗๑๓  วรรค ๕  ศาลจึงควรตั้งให้ใกล้เคียงที่สุดกับเจตนาของเจ้ามรดก  ที่ศาลล่างทั้งสองเห็นสมควรตั้งจำเลยนั้นเป็นการสมควรและเหมาะสมแล้ว
พิพากษายืน