โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย มี และ พกพา อาวุธ ปืน และ ได้ ใช้ อาวุธ ปืนยิง นาย วินัย ภู่พันธ์แก้ว ผู้เสียหาย โดย เจตนา ฆ่า จำเลย ลงมือกระทำ ความผิด ไป ตลอด แล้ว แต่ การ กระทำ นั้น ไม่ บรรลุผล เนื่องจากกระสุน ปืน ถูก อวัยวะ ที่ ไม่ สำคัญ และ แพทย์ ได้ รักษา พยาบาลทัน ท่วงที นาย วินัย จึง ไม่ ถึง แก่ ความตาย ขอ ให้ ลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 และ พระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ
จำเลย รับสารภาพ ข้อหา มี และ พา อาวุธ ปืน และ รับว่า ใช้ อาวุธ ปืนยิง ผู้เสียหาย จริง แต่ กระทำ ไป เพื่อ ป้องกัน ตัว
ศาลชั้นต้น พิพากษา ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 และพระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ ลดโทษ แล้ว คง จำคุก รวม 8 ปี 2 เดือน
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา แก้ ให้ ยกฟ้อง เฉพาะ ข้อหา พยายาม ฆ่า ผู้อื่นนอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คืน เกิดเหตุ จำเลย เดิน เข้า ซอย ต้นนุ่นจะ ไป ที่ บ้าน มารดา บุญธรรม ของ จำเลย ผู้เสียหาย กับพวก 4-5 คนกำลัง ดื่ม สุรา อยู่ ใน ซอย เห็น จำเลย เดิน มา หา ว่า จำเลย ถอดเสื้อ อวด รอยสัก ได้ เรียก จำเลย เข้า ไป ถาม และ ช่วย กัน รุม ทำร้ายจำเลย จำเลย วิ่งหนี ผู้เสียหาย กับพวก ได้ วิ่ง ไล่ ตาม จำเลย วิ่ง หนีมา ถึง ทาง สามแยก หนี ต่อ ไป ไม่ ทัน จึง ได้ หัน กลับ มา และ ใช้ปืน ยิง ผู้เสียหาย ตาม คำ จำเลย ก่อน ยิง จำเลย ได้ ยก ปืน ขึ้นขู่ ผู้เสียหาย ว่า อย่า เข้า มา ถ้า เข้า มา จะ ยิง ผู้เสียหาย ก็ไม่ เชื่อ ยัง ทำ ท่า จะ วิ่ง เข้า มา ทำร้าย จำเลย อีก เห็น ได้ ว่าผู้เสียหาย เป็น ฝ่าย ก่อเหตุ ทำร้าย จำเลย ก่อน และ จำเลย ได้ พยายามหลีกเลี่ยง การ ต่อสู้ จน ถึง ที่สุด แล้ว ขณะ เกิดเหตุ ทาง ฝ่ายจำเลย ก็ มี แต่ ตัว จำเลย คนเดียว หาก ผู้เสียหาย กับพวก วิ่ง เข้า มาถึง ตัว อาจ ทำร้าย จำเลย ถึง ตาย ได้ การ ที่ จำเลย ใช้ ปืน ยิงผู้เสียหาย 1 นัด ใน ขณะนั้น จึง เป็น การ ป้องกันตัว พอ สมควร แก่ เหตุ จำเลย ไม่ มีความผิด ฐาน พยายาม ฆ่า ผู้เสียหาย ศาลอุทธรณ์ พิพากษาชอบแล้ว ฎีกา โจทก์ ฟัง ไม่ ขึ้น
พิพากษายืน.