คดีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554 ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้โจทก์ฟัง โดยถือว่าได้อ่านให้จำเลยฟังด้วยแล้ว ต่อมาวันที่ 1 สิงหาคม 2555 จำเลยยื่นคำร้องว่า ศาลชั้นต้นออกหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 2 วันที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 9 นาฬิกา ต่อมาวันที่ 4 เมษายน 2554 เจ้าหน้าที่รายงานว่าผลการส่งหมายนัดให้จำเลยทางไปรษณีย์ส่งไม่ได้ เพราะย้ายไม่ทราบที่อยู่ และวันนัดกระชั้นชิดส่งใหม่โดยเจ้าพนักงานเดินหมายศาลไม่ทัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เลื่อนวันนัด ส่งใหม่เป็นหมายศาล ให้เจ้าหน้าที่ส่ง ปิดหมายได้ ต่อมาศาลชั้นต้นได้ออกหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ฉบับใหม่ นัดวันที่ 27 มิถุนายน 2554 ระบุในหมายว่า ไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิดหมาย ดังนี้ ศาลชั้นต้นจะต้องตรวจสอบให้ชัดเสียก่อนว่า จำเลยได้ย้ายไปอยู่ที่ใดซึ่งอาจต้องให้โจทก์สืบหาที่อยู่จำเลยและแถลงให้ศาลทราบ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานเดินหมายของศาลไปส่งหมายโดยวิธีปิดหมายจึงเป็นการไม่ชอบ และเมื่อถึงวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 การที่ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยก็เป็นการไม่ชอบ เพราะจะถือว่าจำเลยทราบวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 แล้วไม่ได้ การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันที่ 13 กันยายน 2554 จึงเป็นการไม่ชอบ ขอให้เพิกถอนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 และเพิกถอนหมายจับ ฉบับลงวันที่ 14 กันยายน 2554 กับส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้จำเลยตามภูมิลำเนาที่ถูกต้องปัจจุบันคือบ้านเลขที่ 42/278 ถนนรวิพร ซอยหนองพลับหวาน ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การส่งหมายส่งไปตามภูมิลำเนาตามฟ้องและเคยส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยได้ หากจำเลยย้ายที่อยู่เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องแจ้งให้ศาลทราบ การส่งหมายชอบแล้ว กรณีไม่มีเหตุเพิกถอนการอ่านและเพิกถอนหมายจับ ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันที่ 27 มิถุนายน 2554 ให้จำเลย และการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ให้จำเลยฟังชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า การส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้จำเลยทราบโดยการปิดหมายตามคำสั่งศาลนั้น หากเป็นการปิดหมาย ณ ภูมิลำเนาของจำเลยตามที่ปรากฏในคำฟ้องของโจทก์โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ย้ายไปจากภูมิลำเนานั้นก่อนแล้วย่อมเป็นการส่งโดยชอบ และเมื่อครบกำหนดเวลา 15 วันแล้ว ย่อมมีผลใช้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 กรณีของจำเลยแม้จะได้ส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันที่ 27มิถุนายน 2554 ให้จำเลยทราบโดยการปิดหมาย ณ ภูมิลำเนาของจำเลยตามคำฟ้องของโจทก์ก็ตาม แต่ตามรายงานเจ้าหน้าที่ ฉบับลงวันที่ 4 เมษายน 2554 เจ้าหน้าที่ศาลรายงานว่า ในการส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันที่ 25 เมษายน 2554 ให้จำเลยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับนั้น ส่งไม่ได้เพราะจำเลยย้ายที่อยู่ใหม่ ดังนี้ ก่อนศาลชั้นต้นจะเลื่อนวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ออกไปและหมายนัดจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 โดยให้เจ้าพนักงานศาลส่งด้วยวิธีปิดหมายนั้น ศาลชั้นต้นต้องแจ้งให้โจทก์แถลงให้ศาลชั้นต้นทราบเสียก่อนว่าจำเลยยังคงมีภูมิลำเนาตามคำฟ้องของโจทก์หรือไม่ แต่ศาลชั้นต้นก็มิได้ดำเนินการดังกล่าวกลับมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานศาลส่งหมายนัดให้จำเลยโดยวิธีปิดหมายตามภูมิลำเนาของจำเลยในคำฟ้องของโจทก์ ทั้งกรณีก็มิใช่หน้าที่ของจำเลยที่ต้องแถลงที่อยู่ให้ศาลทราบ เช่นนี้หากข้อเท็จจริงฟังได้ตามรายงานการเดินหมายดังกล่าวย่อมเป็นกรณีที่จำเลยได้ย้ายภูมิลำเนาตามคำฟ้องของโจทก์ไปแล้วก่อนมีการปิดหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันที่ 27 มิถุนายน 2554 แม้จะปิดหมายครบ 15 วัน แล้วก็ไม่มีผลใช้ได้ตามกฎหมายและถือไม่ได้ว่าเป็นการส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันที่ 27 มิถุนายน 2554 ให้จำเลยทราบโดยชอบ จึงมีเหตุผลเชื่อได้ว่าจำเลยยังไม่ทราบวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันที่ 27 มิถุนายน 2554 ดังนั้น การที่จำเลยไม่มาศาลในวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันที่ 27 มิถุนายน 2554 และศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยจึงเป็นการไม่ชอบ ทั้งการที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ลับหลังจำเลยหลังจากออกหมายจับจำเลยเกินกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ก็ไม่อาจถือได้ว่าจำเลยได้ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันดังกล่าวและถือไม่ได้ว่าศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้จำเลยฟังโดยชอบแล้ว ศาลฎีกาชอบที่จะเพิกถอนการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องของจำเลยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นในการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554 เพิกถอนหมายจับจำเลยฉบับลงวันที่ 14 กันยายน 2554 และให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้จำเลยฟังใหม่แล้วดำเนินการต่อไป