โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติการประมงพ.ศ. 2490 มาตรา 4, 20, 62 ทวิ, 69 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 105 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2515 ข้อ 2, 4, 5 ริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 20, 62 ทวิ, 69ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 105 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2515ข้อ 2, 4, 5 จำเลยทั้งสองอายุ 20 ปี รู้ผิดชอบดีแล้วไม่ลดมาตราส่วนโทษให้ ให้จำคุกคนละ 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 ปี ของกลางริบ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 6 เดือนและปรับ 5,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 79กึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 3 เดือน และปรับ 2,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษจำเลยที่ 1 ไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ถ้าไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน จำเลยที่ 2รับสารภาพเช่นเดียวกัน ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78กึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 3 เดือน ไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษจำคุก จึงไม่รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "...คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทำการประมงโดยไม่ได้รับอนุญาต คำขอท้ายฟ้องระบุอ้างพระราชบัญญัติการประมงพ.ศ. 2490 มาตรา 20 ซึ่งเป็นบทมาตราความผิด และมาตรา 62 ทวิซึ่งเป็นบทกำหนดโทษและอ้างประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 105 ข้อ 4ซึ่งแก้ไขมาตรา 62 ทวิ แต่ในขณะที่จำเลยกระทำผิด ได้มีพระราชบัญญัติการประมง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2528 ออกใช้บังคับแล้วโดยแก้ไขมาตรา62 ทวิ แม้โจทก์จะมิได้อ้างพระราชบัญญัติการประมง (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2528 แต่ได้อ้างกฎหมายเดิมซึ่งมีความผิดอยู่ ถือว่าฟ้องโจทก์ได้อ้างมาตราที่ลงโทษจำเลยมาสมบูรณ์แล้ว ศาลฎีกามีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 2 ตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ได้ ควรปรับบทลงโทษที่แก้ไขใหม่ให้ถูกต้องมีผลถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งไม่มีฝ่ายใดฎีกาด้วย แต่โทษที่ลงแก่จำเลยที่ 1 คงยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์"
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองผิดตามพระราชบัญญัติการประมงพ.ศ. 2490 มาตรา 20, 62 ทวิ พระราชบัญญัติการประมง (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2528 มาตรา 10 โทษจำเลยที่ 1 ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนจำเลยที่ 2 ให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 10,000 บาทจำเลยที่ 2 รับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือนและปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกจำเลยที่ 2 ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ถ้าไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.