โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490มาตรา 32(2) (4), 65, 69, 70 ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมืออวนลากและอวนรุนที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมงในทะเลสาบจังหวัดสงขลาและจังหวัดพัทลุง ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2515พระราชบัญญัติการประมง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2528 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 105 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2515 ข้อ 5 ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 32(2) (4), 65, 69, 70ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมืออวนลากและอวนรุนที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมงในทะเลสาบจังหวัดสงขลา และจังหวัดพัทลุง ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2515 พระราชบัญญัติการประมง(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2528 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 105ลงวันที่ 24 มีนาคม 2515 ข้อ 5 จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบของกลางนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีนี้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ของกลางในคดีเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 32(2) และมาตรา 70เพราะเป็นเครื่องมือทำการประมงที่กำหนดห้ามใช้ไว้ให้รู้ ผู้ใดจะใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำภายในเขตหรือรัศมีที่ห้ามไว้มิได้เลยของกลางจึงต้องริบตามมาตรา 70 กรณีหาอยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา 69 ซึ่งศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจริบหรือไม่ริบของกลางก็ได้ไม่ที่จำเลยฎีกาว่า ตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 69ที่แก้ไขแล้ว มีเจตนารมณ์ให้ศาลใช้ดุลพินิจในการริบของกลางหรือไม่ก็ได้ จำเลยกระทำผิดเพียงเล็กน้อยและเพิ่งกระทำผิดเป็นครั้งแรกหากต้องริบของกลางซึ่งเป็นเครื่องมือหากินของจำเลยแล้ว จำเลยจะได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ศาลชั้นต้นไม่ริบของกลางตรงกับเจตนารมณ์ของกฎหมายแล้ว เห็นว่า ฎีกาของจำเลยเพียงแต่ยกมาตรา 69ขึ้นอ้างเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจไม่ริบของกลาง แต่ไม่ได้กล่าวในฎีกาเลยว่า ที่ศาลอุทธรณ์ให้ริบของกลางตามมาตรา 70 นั้น ไม่ถูกต้องในข้อใดอย่างไร ทั้ง ๆ ที่ศาลอุทธรณ์ก็ได้วินิจฉัยไว้แล้วว่าจะนำมาตรา 69 มาใช้กับคดีนี้ไม่ได้ ฎีกาของจำเลยเช่นนี้ไม่ได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย"
พิพากษายกฎีกาจำเลย.