โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน ๗๙,๕๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์
จำเลยที่ ๑ ให้การต่อสู้หลายประการรวมทั้งว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า โจทก์มีมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ ๒ ชำระเงินค้ำประกันเพราะจำเลยที่ ๑ มิได้ผิดสัญญา
วันนัดสืบพยาน คู่ความแถลงสละประเด็นที่ว่า ส่งมอบฝ้ายผิดหรือไม่ คงมีประเด็นเฉพาะจำเลยที่ ๑ ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และต่างไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาจะต้องวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๒๔ จำเลยที่ ๑ ส่งมอบฝ่ายปุยงวดที่ ๓ และที่ ๔ ต่ำกว่าคุณสมบัติของฝ้ายตามตัวอย่าง โจทก์ฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๒๕ ซึ่งพ้นกำหนด ๑ ปี นับแต่วันส่งมอบฝ้ายปุยไม่ตรงตามตัวอย่าง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๐๔ บัญญัติไว้ว่า ในข้อรับผิดเพื่อการส่งของไม่ตรงตามตัวอย่างหรือ.....นั้นท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดปีหนึ่งนับแต่เวลาส่งมอบคดีโจทก์จึงขาดอายุความ ที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ฟ้องเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินประกันการปฏิบัติตามสัญญาข้อ ๗ เท่านั้น มิได้ฟ้องบังคับให้จำเลยที่ ๑ รับผิดเพื่อการส่งมอบของไม่ตรงตามตัวอย่างนั้น ปรากฏตามฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ส่งมอบฝ้ายปุยต่ำกว่าคุณสมบัติของฝ้ายตามตัวอย่าง โจทก์จึงฟ้องเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองชำระเงินประกันการปฏิบัติตามสัญญาข้อ ๗ เห็นได้ว่า เป็นการฟ้องเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองชำระเงินประกัน เนื่องจากการที่จำเลยที่ ๑ ส่งมอบของไม่ตรงตามตัวอย่างนั่นเองกรณีไม่ต้องด้วยบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๖๔ ซึ่งมีกำหนดอายุความ ๑๐ ปี
พิพากษายืน.