โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมียาง 439 ก.ก. ไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ. 2481 มาตรา 5, 7 และริบของกลางจำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและลดฐานรับสารภาพกึ่งหนึ่งคงปรับ 150 บาท ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6) และตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ. 2481 มาตรา 5 มิใช่เป็นบทบัญญัติโทษไว้โดยลำพังแต่ได้ระบุโยงไปถึงกฎกระทรวงด้วย กฎกระทรวงใดที่โจทก์อ้างว่าจำเลยฝ่าฝืนโจทก์ต้องระบุไว้ในคำฟ้องเพื่อให้จำเลยเข้าใจได้ดี จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ของกลางคืนจำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่านอกจาก ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์แล้วกฎกระทรวงนั้นได้กำหนดไว้เฉพาะผู้ซึ่งได้รับอนุญาตเป็นผู้ค้ายางประสงค์จะมียางไว้ในครอบครองในเขตอำเภอหนึ่งเกิน 1,200 ก.ก. จึงให้ยื่นเรื่องราวขออนุญาต แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ค่ายางประสงค์จะมียางนั้นหาได้กำหนดไว้ไม่จะแปลว่าผู้มียางไว้ไม่ว่าปริมาณเท่าใดโดยไม่ได้รับอนุญาตจะต้องมีผิดเสมอไปหาได้ไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามคำพิพากษาฎีกาที่ 790/2491 พิพากษายืน