คดีนี้ศาลเดิมตัดสินลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๔๙ ให้จำคุก ๑๕ ปี
ศาลอุทธรณ์ตัดสินลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๕๑ ให้จำคุก ๓ ปี  โดยเห็นว่าจำเลยกับผู้ตายได้สมัคร์เข้าวิวาท  แลการทำร้ายได้เกิดขึ้นในเวลาชุลมน  จะฟังว่าจำเลยชุลมุน  จะฟังว่าจำเลยแทงผู้ตายโดยเจตนาจะฆ่าไม่ได้
โจทก์ฎีกาแต่ฝ่ายเดียว  (จำเลยไม่ได้ฎีกา)
ศาลฎีกาเห็นว่า  แม้จำเลยจะด่าท้าทายผู้ตายขึ้นก็ดี  แต่เมื่อผู้ตายจะมาทำร้ายจำเลยแลมีผู้ห้ามไว้ จำเลยก็ยินยอม  แสดงว่าจำเลยไมสมัคร์จะวิวาทกับผู้ตายต่อไปแล้ว  แต่ผู้ตายยังติดตามเข้าทำร้ายจำเลยถึงในห้อง  ขณะเมื่อจำเลยล้มลงแล้วผู้ตายยังเข้าซ้ำเติมบีบคอแลใช้เข่าทับท้องจำเลยไว้  ซึ่งอาจเปนอันตรายถึงแก่ชีวิตได้  ที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตาย  จึงเข้าในลักษณป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุตามมาตรา ๕๐ แม้จำเลยมิได้ฎีกาคัดค้านขึ้นมาก็ดี  เมื่อศาลพิจารณาเห็นว่าจำเลยไม่ควรต้องรับอาชญาก็มีอำนาจปล่อยจำเลยได้  จึงตัดสินกลับศาลอุทธรณ์  ให้ปล่อยตัวจำเลยไป