โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นบุคคลหนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยและพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย
จำเลยให้การต่อสู้คดี
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ มีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดและให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียม ค่าทนาย ๒ ศาล ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นสมควรแก่โจทก์ โดยหักจากกองทรัพย์สินของจำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย สำหรับค่าทนายความของเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์นั้น พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๓๐ (๕) บัญญัติว่า ให้ชำระในการแบ่งทรัพย์สินของผู้ล้มละลายแก่เจ้าหนี้ตามจำนวนที่ศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนด ศาลฎีกาได้ประชุมใหญ่มีมติว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๖๗ ประกอบกับพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๓๐ ดังกล่าวแล้ว ศาลอาจมีคำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมโดยให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดค่าทนายความในชั้นศาลตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเห็นควรได้
พิพากษายืน ให้จำเลยเสียค่าทนายความชั้นฎีกาแก่โจทก์ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนด