คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานะวิ่งราวทรัพย์ใดโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิด ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 336,336 ทวิ และริบรถจักรยานยนต์ของกลาง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 336 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 336 ทวิ จำคุกจำเลย 6 ปีริบของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลางมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยขอให้คืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้องและถอนการอายัดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวด้วย
โจทก์คัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของรถจักรยานยนต์คันของกลางที่จำเลยใช้กระทำความผิด ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของ ผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้คืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้องและถอนการอายัดรถคันดังกล่าว
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ร้องเป็นบริษัทประกอบกิจการให้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ นายประพันธ์เป็นหัวหน้าหน่วยเร่งรัดหนี้สินของผู้ร้องคำเบิกความของนายประพันธ์จึงมีเหตุผลน่าเชื่อถือ แม้การซื้อขายรถคันพิพาทระหว่างผู้ร้องและนายยุทธนายังมิได้มีการโอนทางทะเบียนมาเป็นของผู้ร้องก็ตามแต่ผู้ร้องก็มีใบคู่มือจดทะเบียน แบบคำขอโอนและรับโอนกับหนังสือมอบอำนาจมาแสดงต่อศาล เอกสารดังกล่าวระบุไว้ชัดแจ้งว่านายยุทธนาเป็นเจ้าของรถได้ขายรถให้แก่ผู้ร้องและนายยุทธนาได้มอบอำนาจให้ผู้ร้องไปทำการโอนรถให้แก่ผู้ร้องได้ คู่กรณีได้ลงชื่อไว้ในเอกสารถูกต้องครบถ้วน โจทก์มิได้นำสืบให้เป็นอย่างอื่น ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า นายยุทธนาได้ขายรถคันพิพาทให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องจึงเป็นเจ้าของรถคันพิพาทส่วนการเปลี่ยนแปลงรายการเจ้าของรถในใบคู่มือจดทะเบียนนั้นไม่ใช่หลักฐานที่แสดงว่าผู้มีชื่อในคู่มือจดทะเบียนเป็นเจ้าของรถเสมอไป เพราะใบคู่มือจดทะเบียนเป็นเพียงหลักฐานของทางราชการที่มีขึ้นเพื่อเป็นความสะดวกในการควบคุมรถและในการจัดเก็บค่าภาษีรถของทางราชการที่วางระเบียบไว้เท่านั้น ผู้โอนและผู้รับโอนจะไปจัดการโอนทะเบียนรถให้แก่กันเมื่อใดก็ได้ เมื่อผู้ร้องเป็นเจ้าของรถคันพิพาทและฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการที่จำเลยนำรถไปใช้ในการกระทำความผิด ผู้ร้องจึงมีสิทธิที่จะต้องขอรถของกลางคืนได้
พิพากษายืน