โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕, ๓๓ และริบเลื่อยของกลาง กับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์จำนวน ๙๕๙,๗๖๐ บาท แก่ผู้เสียหายด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา การประชาส่วนภูมิภาค ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๑) (๘) (ที่ถูกมาตรา ๓๓๕ (๑) (๘) วรรคสอง) จำคุก ๖ ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๔ ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์จำนวน ๙๕๙,๗๖๐ บาท แก่ผู้เสียหาย ริบเลื่อยของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วเห็นว่า? ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายเข้าไปลักเอาสายไฟฟ้าทองแดงอันเป็นทรัพย์ของการประปาส่วนภูมิภาคโจทก์ร่วมซึ่งอยู่ในสำนักงานประปาสงขลา (เขตจำหน่ายน้ำหาดใหญ่) ไปในเวลากลางคืนตามฟ้อง ที่จำเลยฎีกาว่า สำนักงานประปาสงขลา (เขตจำหน่ายน้ำหาดใหญ่) อันเป็นสถานที่เกิดเหตุเป็นที่ทำงานของจำเลยซึ่งจำเลยชอบที่จะเข้าไปในสถานที่ดังกล่าวได้ กรณีจึงไม่ใช่การลักทรัพย์ในสถานที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๘) นั้น เห็นว่า สถานที่เกิดเหตุอยู่ในสำนักงานประปาสงขลา (เขตจำหน่ายน้ำ หาดใหญ่) อันเป็นส่วนงานของการประปาส่วนภูมิภาคซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ มิใช่สถานที่ราชการ ดังนั้น การที่จำเลยเข้าไปลักทรัพย์ในบริเวณสำนักงานประปาสงขลาดังกล่าวในเวลากลางคืน จึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในสถานที่ ราชการคงเป็นความผิดเพียงลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๑) วรรคแรก เท่านั้น ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๘) ด้วยนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังขึ้น?
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๑) วรรคแรก จำคุก ๔ ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชันจับกุมและชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๒ ปี ๘ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๙