ได้ความว่าที่พิพาทหมายเส้นสีแดงเดิมเปนของ ท. เมื่อ ท.ตายแล้ว ภรรยาโจทก์กับจำเลยและ ช. ๓ คนพี่น้องได้ตกลงยินยอมให้ ส.ยึดไว้เปนประกันเงินที่ ท.ได้กู้มา ส.ยึดไว้ได้ ๓ ปีจำเลยกับ ช.ตกลงยินยอมให้โจทก์และภรรยาออกเงินใช้หนี้ให้ ส.และเอาที่ดินคืนมา บัดนี้โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่หรือห้ามจำเลยไม่ให้มาเกี่ยวข้องในที่พิพาทนี้
ศาลเดิมตัดสินห้ามมิให้จำเลยเข้าไปเกี่ยวข้องในที่พิพาท
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่พิพาทเปนมฤดกของ ท.ซึ่งจำเลยและภรรยาโจทก์กับ ช.ต่างมีสิทธิได้รับคนละเท่า ๆ กัน การที่โจทก์ออกเงินไปไถ่ที่มาก็โดยความยินยอมของภรรยาโจทก์และจำเลยกับ ช. จึงเปนการแสดงว่าโจทก์หาได้ปกครองโดยอำนาจปรปักษ์ไม่การที่โจทก์ปกครองที่นี้มา ๓-๔ ปีนั้น ก็ต้องนับว่าปกครองแทนจำเลยด้วย ตามฎีกาที่ ๕๘๖/๒๔๖๓ ที่พิพาทจึงไม่เปนกรรมสิทธิของโจทก์ทั้งหมาด จึงตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์