ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องในคดีเช็ค: การเปลี่ยนสถานะจากผู้รับเช็คเป็นผู้ทรงเช็คต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานการใช้เงิน
จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินสดจำนวนหนึ่งแล้ว ส.นำเช็คดังกล่าวมาแลกเงินจากโจทก์ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. โจทก์สั่งจ่ายเงินจำนวนนั้นให้ ส.รับไป โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ดังนี้ เมื่อโจทก์มาฟ้องคดีแพ่งเรียกเงินตามเช็ค โจทก์ได้บรรยายฟ้องมีความเช่นเดียวกับคำฟ้องคดีอาญา มิได้มีข้อความเพิ่มเติมแสดงว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว โจทก์ต้องใช้เงินให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. จึงโอนเช็คพิพาทให้โจทก์มาจัดการเอาเอง คำพิพากษาในส่วนอาญาก็ได้วินิจฉัยว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. เป็นผู้ทรงเช็คพิพาท โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ทั้งนี้ ย่อมเป็นการวินิจฉัยและฟังตามบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งมาแล้วว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจำต้องถือตามดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 46 บังคับไว้ คดีไม่มีเหตุที่จะต้องพิจารณาตามมาตรา 47 ประการใดอีกเมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องเพิ่มเติมว่าต่อมาโจทก์ต้องใช้เงินตามเช็คให้แก่ห้างดังกล่าวและห้างนั้นได้โอนเช็คให้โจทก์มาจัดการเอง เป็นการที่โจทก์ได้เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทขึ้นด้วยนั้น คดีไม่มีประเด็นที่โจทก์จะนำสืบดังกล่าวนี้ได้