โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ของโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ใช้ค่าเสียหาย ๓๐๐,๐๐๐ บาท
จำเลยทั้งสองให้การว่า  โจทก์จะมอบอำนาจให้นายปัญญาฟ้องคดีจริงหรือไม่  ไม่รับรอง  จำเลยไม่เคยนำภาพยนตร์ตามฟ้องออกฉาย  โจทก์ไม่เสียหาย
ระหว่างพิจารณา  เมื่อสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนไปได้ ๒ ปาก  ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่าหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดี  มิได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๑๘  แห่งประมวลรัษฎากร  ใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้  ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่านายปัญญาเป็นผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องคดีนี้  พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น  อนุญาตให้โจทก์ขีดฆ่าอากรแสตมป์ในหนังสือมอบอำนาจ  ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป  และพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า  ประมวลรัษฎากร  มาตรา ๑๑๘  บัญญัติว่า  "ตราสารใดไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์   จะใช้ต้นฉบับ  คู่ฉบับ  คู่ฉีก  หรือสำเนาตราสารนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้  จนกว่าจะได้เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบจำนวนตามอัตราในบัญชีท้ายหมวดนี้และฉีดฆ่าแล้ว  แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการเสื่อมสิทธิที่จะเรียกเงินเพิ่มอากรตามมาตรา ๑๑๓  และมาตรา ๑๑๔"   คดีนี้  ปรากฏว่าหนังสือมอบอำนาจที่นายสง่าโจทก์มอบให้นายปัญญาฟ้องคดีแทน  คือ  เอกสารหมาย จ.๑ ซึ่งโจทก์แนบมาท้ายฟ้อง  มีข้อบกพร่องโดยไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์และก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาคดี โจทก์ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตขีดฆ่าอากรแสตมป์แล้ว  อ้างเหตุว่าพลั้งเผลอลืมขีดฆ่า  แต่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องโดยเห็นว่าโจทก์ยื่นคำร้องหลังจากที่ศาลได้งดสืบพยานเพราะหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์แล้ว  ไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้ขีดฆ่า  เพราะฝ่ายจำเลยจะต้องคัดค้านอย่างแน่นอน   ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว  เห็นว่าใบมอบอำนาจ  เอกสารหมาย จ. ๑ ได้เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบถ้วนตามกฎหมายแล้ว  เพียงแต่มีข้อบกพร่องยังไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์เท่านั้น  แต่โจทก์ก็ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวขออนุญาตขีดฆ่า  แม้จะเป็นเวลาภายหลังที่ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน  เพราะเหตุที่ศาลพบข้อบกพร่องดังกล่าวก็ตาม  ก็เป็นการสมควรที่จะอนุญาตให้โจทก์ขีดฆ่าได้  เห็นว่าเมื่ออนุญาตให้โจทก์ขีดฆ่าอากรแสตมป์ในเอกสารหมาย จ.๑ ได้  ดังวินิจฉัยมาข้างต้นแล้ว  เอกสารหมาย จ.๑ ก็ใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ตามประมวลรัษฎากร  มาตรา ๑๑๘  เป็นผลทำให้ฟังได้ตามเอกสารนี้ว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้นายปัญญาฟ้องคดีนี้
พิพากษายืน