โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,147, 172, 174, 179, 181 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 72
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 181(1) ลงโทษจำคุก 6 เดือน มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 วรรคแรก ลงโทษจำคุก1 ปี และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 179 ลงโทษจำคุก3 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 9 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ในชั้นอุทธรณ์จำเลยอุทธรณ์ว่ามิได้กระทำผิดแต่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มิได้วินิจฉัยในปัญหาข้อนี้ แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงตามอุทธรณ์ของจำเลย แต่เมื่อโจทก์จำเลยได้นำสืบพยานมาจนสิ้นกระแสความแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าวไปได้เองโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยชี้ขาดก่อนแล้วฟังข้อเท็จจริงและวินิจฉัยว่าคืนเกิดเหตุผู้เสียหายมิได้นำอาวุธปืนติดตัวไปที่บ้านจำเลยและมิได้ทำอาวุธปืนหล่นที่หน้าบ้านจำเลย การที่จำเลยไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าผู้เสียหายทำอาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก กระสุนปืนบรรจุอยู่ 1 นัดตกอยู่หน้าบ้านจำเลย จึงเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายเพื่อแกล้งให้ผู้เสียหายต้องรับโทษอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 ประกอบมาตรา 174 วรรคสองเท่านั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172, 181(1) แล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 181(1) และศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนมานั้นไม่ถูกต้อง เพราะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 181(1)ซึ่งบัญญัติว่า "ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 174(1) เป็นการกระทำในกรณีแห่งข้อหาว่า ผู้ใดกระทำความผิดที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีขึ้นไป" นั้น คำว่า "เป็นการกระทำในกรณีแห่งข้อหาว่าผู้ใดกระทำความผิดที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีขึ้นไป"หมายความว่า กรณีแห่งข้อหาว่าผู้ใดกระทำความผิดจะต้องมีอัตราโทษขั้นต่ำของความผิดจำคุกสามปีเป็นอย่างน้อยที่สุด คดีนี้กรณีแห่งข้อหาว่าผู้เสียหายกระทำความผิดคือ การที่จำเลยแจ้งความเท็จว่าผู้เสียหายมีและพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี โทษขั้นต่ำไม่ถึงสามปี การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 181(1)แม้โจทก์จำเลยจะไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาปรับบทลงโทษจำเลยให้ถูกต้องโดยไม่กำหนดโทษจำเลยให้สูงขึ้นอีกได้ และในการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าว จำเลยนำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปมอบให้พนักงานสอบสวนด้วย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้พนักงานสอบสวนเชื่อว่าได้มีความผิดอาญาเกิดขึ้น จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 179ซึ่งเป็นความผิดต่างกรรมจากการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 ประกอบมาตรา 174 วรรคสอง โดยลงโทษจำคุก 6 เดือนส่วนความผิดตามมาตรา 181(1) ให้ยก นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2