โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 6, 8, 15, 27, 30, 61, 69, 74, 75, 76 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83 และริบเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 6 เครื่อง ของกลาง และให้หน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 6 เครื่อง ของกลางที่บันทึกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ และจ่ายค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ด้วย
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 69 วรรคสอง ประกอบมาตรา 30 (1) และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 100,000 บาท จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 50,000 บาท หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 สำหรับจำเลยที่ 2 เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบกับไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสจำเลยที่ 2 กลับตัวเป็นพลเมืองดี ให้รอการกำหนดโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ให้หน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จำเลยทั้งสองได้ทำซ้ำ ดัดแปลงขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย จำนวน 6 เครื่อง ของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์ตกเป็นของผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และให้จ่ายเงินค่าปรับที่จำเลยที่ 1 ชำระตามคำพิพากษาฐานละเมิดลิขสิทธิ์เป็นจำนวนกึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ข้อเท็จจริงตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีส่วนอื่นใดของเครื่องคอมพิวเตอร์นอกจากหน่วยความจำของเครื่องที่บันทึกโปรแกรมคอมพิวเตอร์อันละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายไว้เป็นส่วนที่จำเลยทั้งสองได้ใช้ในการกระทำความผิดตามฟ้องอย่างไร จึงไม่ริบเครื่องคอมพิวเตอร์ 6 เครื่อง นอกเหนือจากส่วนที่เป็นหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าว
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์มีว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้ง 6 เครื่องของกลางเป็นทรัพย์ที่จำเลยทั้งสองใช้ในการกระทำผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์งานวรรณกรรมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของผู้เสียหายตามฟ้องอันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) หรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องในข้อ 2 ว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้องจำเลยทั้งสองร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของผู้เสียหาย โดยนำเอาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชื่อ AutoCAD 2007, AutoCAD 2009 และ Autodesk 3ds Max 2010 ของผู้เสียหายซึ่งมีผู้ทำซ้ำ ดัดแปลงขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายไปบันทึกลงในหน่วยความจำถาวร (Hard Disk) ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความดูแลครอบครองของจำเลยทั้งสองจำนวน 6 เครื่อง โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 6 เครื่อง ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ในการทำซ้ำ ดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังกล่าวอันเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย โดยใช้วิธีบันทึกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ลงในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ และได้บรรยายฟ้องในข้อ 3 ว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุเจ้าพนักงานพบเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 6 เครื่อง ดังกล่าวซึ่งมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จำเลยทั้งสองได้ทำซ้ำ ดัดแปลงขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายอันเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดดังกล่าว เมื่อจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้ง 6 เครื่องในการกระทำความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ในงานวรรณกรรมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของผู้เสียหาย ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีส่วนอื่นใดของเครื่องคอมพิวเตอร์นอกจากหน่วยความจำของเครื่องที่บันทึกโปรแกรมคอมพิวเตอร์อันละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายไว้เป็นส่วนที่จำเลยทั้งสองได้ใช้ในการกระทำความผิดตามฟ้องอย่างไร จึงไม่ริบเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้ง 6 เครื่อง นั้น เมื่อหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะทำการละเมิดงานโปรแกรมคอมพิวเตอร์อันเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายได้ ต้องอาศัยอุปกรณ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเช่นระบบประมวลผลในเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบกันจึงจะสามารถทำซ้ำ ดัดแปลงงานดังกล่าวอันเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายได้ คำวินิจฉัยของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางดังกล่าวจึงไม่ชอบ
ส่วนคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองว่า โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้ง 6 เครื่องดังกล่าวในการทำซ้ำ ดัดแปลง ซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของผู้เสียหายด้วยวิธีการอย่างไร จึงเป็นกรณีที่โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องหรือประสงค์ให้ลงโทษ ลำพังแต่การตรวจพบว่าในหน่วยความจำถาวร (Hard Disk) ซึ่งอยู่ในคอมพิวเตอร์ทั้ง 6 เครื่องของจำเลยทั้งสองยังไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองใช้คอมพิวเตอร์ทั้ง 6 เครื่องในการทำซ้ำ ดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายนั้น เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องในข้อ 2 โดยชัดแจ้งแล้วว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของผู้เสียหายโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้ง 6 เครื่องเป็นอุปกรณ์ในการทำซ้ำ ดัดแปลงงานโปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยวิธีบันทึกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของผู้เสียหายลงในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้ง 6 เครื่อง และมีคำขอให้ริบเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้ง 6 เครื่อง และจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพตามฟ้อง กรณีจึงไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองโดยให้ริบเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้ง 6 เครื่อง ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำพิพากษาไม่ริบเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้ง 6 เครื่อง นั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 6 เครื่อง ของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง