โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับนายคอมีเข้าหุ้นออกเงินกันซื้อข้าง 1 เชือก ราคา 9,000 บาท โดยจำเลยออกเงิน 4,700 บาทนายคอมีออก 4,300 บาท เมื่อซื้อแล้วตกลงเปลี่ยนกันเลี้ยงช้างซึ่งเป็นเจ้าของร่วมกันนั้นเพื่อหาประโยชน์คนละ 2 เดือน ครั้นจำเลยเอาไปเลี้ยงแล้วถึงคราวที่จะผลัดเปลี่ยนให้ทายาทของนายคอมี(นายคอมีตาย) นำไปเลี้ยง จำเลยบังอาจมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาช้างไว้เลี้ยงหาประโยชน์ส่วนตัวของจำเลยมีเสียแต่ผู้เดียวไม่มอบช้างให้แก่ทายาทนายคอขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352
จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้ว่า ช้างเป็นของจำเลยแต่ผู้เดียว
ศาลจังหวัดหล่มสักงดสืบพยานโจทก์จำเลย วินิจฉัยว่าตามฟ้องนายคอมีผู้เป็นหุ้นส่วนตาย ยังไม่มีการชำระบัญชี ทายาทยังไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้เสียหายที่จะร้องทุกข์ได้ ส่วนเรื่องการผิดสัญญาหุ้นส่วนนั้น ก็เป็นเรื่องทางแพ่ง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ตามฟ้อง แม้จะมีถ้อยคำว่า เข้าหุ้นกันซื้อข้าง แต่ก็มีข้อความว่า นายคอมีกับจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ช้างร่วมกัน และหากนายคอมีเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมอยู่ด้วยจริงเมื่อนายคอมีตายลง ทายาทก็ย่อมเป็นผู้เสียหายการเบียดบังเอาทรัพย์ที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของร่วมด้วยไปโดยทุจริตก็มีความผิดตามฟ้องได้พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน