โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าตึกแถวของโจทก์เพื่อทำการค้าและได้ใช้เป็นร้านค้าตลอดมา ครบกำหนดสัญญาแล้ว จำเลยก็ยังเช่าต่อมาโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว จำเลยไม่ยอมออกจากห้องพิพาท ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่า ฟ้องเคลือบคลุมเพราะมิได้ระบุว่าใช้ห้องพิพาททำการค้าสิ่งใด จำเลยใช้ห้องเป็นที่อยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ จำเลยนำค่าเช่าไปชำระ โจทก์ไม่ยอมรับ โจทก์จะอ้างว่าเสียหายไม่ได้
ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกัน ให้จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาท
จำเลยฎีกาในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงโดยผู้พิพากษาศาลชั้นต้นรับรองให้ฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว จำเลยค้านว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมโดยไม่ได้ระบุว่าจำเลยทำการค้าอะไร เห็นว่า โจทก์กล่าวว่าจำเลยได้เช่าตึกเพื่อทำการค้า ก็เป็นการเพียงพอที่แสดงว่าจำเลยเช่าเพื่อทำการค้า ไม่ใช่เพื่ออยู่อาศัย จำเลยไม่เสียเปรียบในการต่อสู้คดี และฟังข้อเท็จจริง จำเลยเช่าเพื่อทำการค้า โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าให้จำเลยออกจากห้องพิพาทแล้ว
พิพากษายืน