โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกระทง คือ
ก. มีน้ำสุราเถื่อน
ข. มีลูกแป้งเชื้อสุราเถื่อน โดยมิได้รับอนุญาต
ค. มีหมักส่าเชื้อสุราเถื่อนโดยมิได้รับอนุญาต
ง. มีเครื่องสำหรับต้มกลั่นสุราไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต
จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดจริงตามฟ้อง ตามฟ้องข้อ ค. จำเลยรับว่าส่าหมักของกลางมีแรงแอลกอฮอล์ สามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา โจทก์จำเลยไม่สืบพยาน ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ตามฟ้องข้อ ก. และ ค. จำเลยมีผิดตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2476 มาตรา 8 ฟ้องข้อ ข. จำเลยมีผิดตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2486 มาตรา 16 ฟ้องข้อ ง. โจทก์ไม่ได้บรรยายไว้ว่าจำเลยมีไว้สำหรับต้มกลั่นสุราเถื่อน ลงโทษจำเลยในข้อนี้ไม่ได้ ให้ปรับจำเลย 40 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องข้อ ง. มีความชัดว่าของ 4 อย่างดังกล่าวข้างต้นนั้น จำเลยมีไว้สำหรับทำการต้มกลั่นสุราเถื่อน จึงใช้คำว่ามีไว้โดยมิได้รับอนุญาตในตอนท้ายจำเลยให้การรับสารภาพว่า ได้กระทำผิดตามฟ้อง มิได้ยกข้อต่อสู้หรือโต้แย้งว่า ของทั้ง 4 อย่างตามฟ้องข้อ 2 จำเลยมีไว้เพื่อกิจการอื่น เมื่อจำเลยรับสารภาพเต็มตามฟ้อง ก็ลงโทษจำเลยได้
พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีผิดตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 มาตรา 38 ตามที่แก้ไขใหม่ ให้รวมกระทงปรับจำเลย 160 บาท ลดฐานรับสารภาพคงปรับ 80 บาท ของกลางริบ