คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ 6,100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 10 ต่อปี ของต้นเงิน 5,500,000 บาท โดยจำเลยทั้งสองจะร่วมกันผ่อนชำระเป็นรายเดือน และคดีถึงที่สุดแล้ว จำเลยทั้งสองผิดนัดไม่ชำระหนี้ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดสิทธิเรียกร้องสลากออมสินพิเศษ 3 ปี งวดที่ 93 เลขที่ ก 5169444 ถึงเลขที่ ก 5273443 จำนวน 104,000 หน่วย รวมเป็นเงิน 5,200,000 บาท ของจำเลยที่ 1 เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งกันส่วนเงินที่ได้จากการอายัดสลากออมสินพิเศษดังกล่าวแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 แผนกคดีผู้บริโภคพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา โดยศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภคอนุญาตให้ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภควินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในชั้นนี้รับฟังได้ว่า ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์ 6,100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 10 ต่อปี ของต้นเงิน 5,500,000 บาท โดยจำเลยทั้งสองจะร่วมกันผ่อนชำระเป็นรายเดือน และคดีถึงที่สุดแล้ว จำเลยทั้งสองผิดนัดไม่ชำระหนี้ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดสิทธิเรียกร้องสลากออมสินพิเศษ 3 ปี งวดที่ 93 เลขที่ ก 5169444 ถึงเลขที่ ก 5273443 จำนวน 104,000 หน่วย รวมเป็นเงิน 5,200,000 บาท ของจำเลยที่ 1 ซึ่งจำนำเป็นประกันหนี้เงินกู้ไว้กับผู้ร้อง เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม ณ วันที่ 1 กันยายน 2560 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอกันส่วน จำเลยที่ 1 มียอดหนี้ค้างชำระแก่ผู้ร้องในต้นเงิน 4,914,401.76 บาท ดอกเบี้ย 11,363.58 บาท รวมเป็นเงิน 4,925,765.34 บาท
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องที่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาว่า การที่จำเลยที่ 1 มอบสลากออมสินพิเศษให้แก่ผู้ร้องเพื่อประกันหนี้เงินกู้ เป็นการจำนำสิทธิซึ่งมีตราสารหรือไม่ เห็นว่า สิทธิซึ่งมีตราสารย่อมหมายถึงตราสารที่ใช้แทนสิทธิหรือทรัพย์ ซึ่งเป็นเอกสารที่ทำขึ้นตามแบบพิธีในกฎหมายและเป็นตราสารที่โอนแก่กันได้ด้วยวิธีของตราสารนั้น เมื่อได้ความว่าพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ.2489 มาตรา 7 ให้จัดตั้งธนาคารออมสินขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจ ดังต่อไปนี้... 2 ออกพันธบัตร และสลากออมสิน... ตามมาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงและข้อบังคับเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงว่าด้วยการรับฝากเงินประเภทสลากออมสินพิเศษ พ.ศ.2547 โดยข้อ 3 ให้ธนาคารออมสินรับฝากเงินประเภทสลากออมสินพิเศษได้ ข้อ 8 (1) ถึง (3) ระบุให้ผู้ฝากมีสิทธิถอนเงิน (4) ขอกู้เงินจากธนาคารออมสินโดยใช้สลากออมสินพิเศษเป็นหลักประกัน ไม่ว่าจะนำมาใช้เป็นหลักประกันทั้งหมดหรือบางส่วน และ (5) โอนกรรมสิทธิ์ในสลากออมสินพิเศษให้แก่บุคคลอื่น โดยสลากออมสินพิเศษตามข้อ 4 (1) ให้ผู้ฝากลงลายมือชื่อของผู้ฝากในสลากออมสินพิเศษ และแจ้งการโอนให้ธนาคารออมสินทราบก่อนโอนกรรมสิทธิ์ สำหรับสลากออมสินพิเศษตามข้อ 4 (2) ให้ผู้ฝากโอนโดยการผ่านการส่งมอบสลากออมสินพิเศษ และข้อ 2 ให้คำนิยามว่า สลากออมสินพิเศษ หมายความว่า หนังสือตราสารที่ธนาคารออมสินออกให้แก่ผู้ฝาก โดยมีข้อสัญญาว่า ถ้าหนังสือตราสารนั้นมีเลขหมายถูกเลขสลากจ่ายคืน ธนาคารออมสินจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ฝากเป็นจำนวนเงินตามที่กำหนดไว้ และเมื่อหนังสือตราสารนั้นครบกำหนดอายุธนาคารออมสินจะจ่ายเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ย จากพระราชบัญญัติและกฎกระทรวงดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สลากออมสินพิเศษมีลักษณะเป็นตราสารที่เปลี่ยนมือได้ง่าย เป็นหนังสือตราสาร มีพระราชบัญญัติและกฎกระทรวงรับรองจึงเป็นตราสารเปลี่ยนมือได้ มิใช่เอกสารธรรมดาที่ทำขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานแห่งสิทธิทั่วไป แตกต่างจากใบรับฝากเงินหรือสมุดบัญชีเงินฝาก ที่เมื่อฝากเงินแล้วเงินดังกล่าวจะเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับฝาก ที่ผู้ฝากคงมีเพียงสิทธิเรียกเงินคืนได้เท่านั้น จากเหตุดังกล่าวสลากออมสินพิเศษจึงเป็นสิทธิซึ่งมีตราสารที่สามารถจำนำประกันหนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 751 เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 นำสลากออมสินพิเศษดังกล่าวไปจำนำเป็นประกันหนี้กู้เงินแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องจึงเป็นเจ้าหนี้มีประกันซึ่งมีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์ที่จำนำไว้ การบังคับคดีของโจทก์ในคดีนี้ย่อมไม่อาจกระทบกระทั่งถึงบุริมสิทธิจำนำของผู้ร้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 (เดิม) ผู้ร้องจึงมีสิทธิขอกันส่วนเงินที่ได้จากการอายัดสลากออมสินพิเศษในฐานะเจ้าหนี้ผู้มีบุริมสิทธิก่อนเจ้าหนี้อื่น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่มีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น
พิพากษากลับว่า ให้กันส่วนเงินที่ได้จากการอายัดสลากออมสินพิเศษแก่ผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ