คดีสืบเนื่องมาจาก ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188, 334 รวมจำคุก 1 ปี 12 เดือน จำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ โดยผู้ร้อง นางจรัญญาและนางคำมีทำสัญญาประกันในวงเงินสี่แสนบาท แต่จำเลยมิได้ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ และมีหมายแจ้งให้ผู้ประกันทั้งสามส่งตัวจำเลย ผู้ประกันทั้งสามไม่สามารถส่งตัวจำเลยได้ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งปรับผู้ประกันทั้งสามตามสัญญาประกันในวงเงิน 400,000 บาท
ผู้ร้องโดยนายคีตกานต์ ผู้รับมอบอำนาจยื่นคำร้องว่า เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซี แจ้งวัฒนะ เลขที่ 247-2-12xxx-x จำนวน 650,172.51 บาท ของผู้ร้อง เป็นเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ จำนวน 639,591.90 บาท และเงินเดือน จึงไม่อยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดี ผู้ร้องเจ็บป่วยต้องใช้เงินจำนวนดังกล่าวในการรักษา ขอผ่อนชำระค่าปรับเป็นงวด เดือนละ 3,000 บาท โดยขอให้หักเงินจำนวน 30,000 บาท จากบัญชีเงินฝากของผู้ร้องทุกวันที่ 15 ของเดือน และงวดต่อไปจะชำระเมื่อชำระงวดแรกแล้วขอให้ศาลงดการบังคับคดีไว้ชั่วคราว ถอนการอายัดเงินฝากของผู้ร้อง และบังคับคดีแก่ผู้ประกันร่วมต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เมื่อปรากฏว่าศาลได้อายัดบัญชีของผู้ร้องและมีเงินอยู่จำนวนที่ผู้ประกันทั้งสามต้องร่วมรับผิด จึงไม่มีเหตุให้ผู้ร้องผ่อนชำระค่าปรับเป็นงวด และแม้จะมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเงินดังกล่าวว่าอยู่ในข่ายบังคับคดีได้หรือไม่ก็ตาม แต่เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ จึงให้มีหนังสือแจ้งธนาคารให้ส่งเงินตามยอดเงินที่ผู้ประกันทั้งสามต้องร่วมรับผิด หลังส่งเงินให้ศาลแล้วให้ธนาคารถอนการอายัดบัญชีได้ ส่วนที่ดินโฉนดเลขที่ 17127 จังหวัดแพร่ ให้มีหนังสือแจ้งศาลจังหวัดแพร่ให้งดการขายทอดตลาดไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
หลังจากศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ผู้ร้องถึงแก่ความตาย นายคีตกานต์ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ร้องยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ถอนการอายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซี แจ้งวัฒนะ ของผู้ร้อง
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านมิได้โต้แย้งกันรับฟังเป็นยุติว่า เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซี แจ้งวัฒนะ เลขที่ 247-2-12xxx-x ของผู้ร้องจำนวน 650,172.51 บาท เป็นเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ จำนวน 639,591.90 บาท และเงินเดือนของผู้ร้อง เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ศาลชั้นต้นออกหมายแจ้งคำสั่งให้ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ส่งเงินจำนวน 400,000 บาท จากบัญชีเงินฝากของผู้ร้องเพื่อชำระค่าปรับต่อศาลชั้นต้น และธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ได้ส่งเงินจำนวนดังกล่าวต่อศาลชั้นต้นแล้ว ตามใบเสร็จรับเงินในราชการศาลยุติธรรม ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 ในสำนวน
คงมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านว่า เงินในบัญชีเงินฝากของผู้ร้องอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีหรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงระบบบำเหน็จบำนาญข้าราชการเดิมที่รัฐต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายบำเหน็จบำนาญของข้าราชการประจำทุกปี ซึ่งไม่มีการกันเงินสำรองไว้ล่วงหน้าสำหรับจ่ายบำเหน็จบำนาญในอนาคต ให้มีระบบบำเหน็จบำนาญข้าราชการใหม่ โดยการจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการขึ้นเพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญ และให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ และเพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ และจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่ข้าราชการที่เป็นสมาชิกกองทุน ดังปรากฏในหมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 และมาตรา 5 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยทรัพย์สินของกองทุนประกอบด้วย (1) เงินสะสม (เงินที่สมาชิกสะสมเข้ากองทุน) เงินสมทบ (เงินที่รัฐบาลจ่ายสมทบเงินสะสม) เงินประเดิม (เงินที่รัฐบาลนำส่งเข้ากองทุนเพื่อจ่ายเพิ่มให้แก่ข้าราชการที่เลือกรับบำนาญ) เงินชดเชย (เงินที่รัฐบาลนำส่งเข้ากองทุนเพื่อจ่ายเพิ่มให้สมาชิกซึ่งรับบำนาญ) (2) เงินที่ได้รับจัดสรรตามมาตรา 72 งบประมาณรายจ่ายเป็นรายปี (3) ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ (4) เงินที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความจำเป็นเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุน (5) รายได้อื่น และ (6) ดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 ซึ่งการควบคุมและการบริหารกองทุนตามมาตรา 12, 26 และ 84 บัญญัติให้คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการมีอำนาจหน้าที่ (1) กำหนดนโยบาย และออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และคำสั่งในการบริหารกิจการของกองทุน (2) กำหนดนโยบายการลงทุนของกองทุน (3) กำกับดูแลการจัดการกองทุน (4) ออกข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติงานของเลขาธิการ และการมอบอำนาจให้ผู้อื่นปฏิบัติงานแทนเลขาธิการ (5) กำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสำนักงาน และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวกับกิจการของกองทุน (6) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการรับ เก็บรักษา และจ่ายเงินของกองทุน (7) ออกระเบียบ ข้อบังคับ และคำสั่งเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การบรรจุ แต่งตั้ง ถอดถอน และวินัยของพนักงานและลูกจ้าง (8) พิจารณามอบหมายให้สถาบันการเงินหรือนิติบุคคลอื่นจัดการเงินของกองทุน (9) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติการตามที่คณะกรรมการมอบหมาย (10) แต่งตั้งผู้แทนเข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนน ในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทหรือหน่วยงานอื่นใดที่กองทุนถือหุ้นอยู่ และ (11) ปฏิบัติงานอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทำหน้าที่กำกับและดูแลการจัดการกองทุน ด้วยเหตุนี้ การบริหารจัดการกองทุนซึ่งประกอบด้วยทรัพย์สินที่มีแหล่งที่มาจากหลายกรณี รวมทั้งเงินที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล จึงมีลักษณะเป็นการดำเนินกิจการเกี่ยวกับการเงินการคลังของประเทศที่เกี่ยวกับข้าราชการโดยรวม ซึ่งถือเป็นการจัดทำบริการสาธารณะในเรื่องที่เกี่ยวกับการจ่ายบำเหน็จบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ ดังนี้ เงินสมทบ เงินชดเชย เงินประเดิม และผลประโยชน์ตอบแทนเงินดังกล่าว ย่อมถือเป็นรายได้อื่นในลักษณะเดียวกันกับบำนาญบำเหน็จของข้าราชการ ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 302 (2) การที่ศาลชั้นต้นอายัดเงินในบัญชีเงินฝากของผู้ร้อง จึงเป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม หรือที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนในเรื่องการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคหนึ่ง ซึ่งความตอนท้ายของบทมาตราดังกล่าว ให้อำนาจศาลที่จะสั่งให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสียทั้งหมดหรือบางส่วน หรือสั่งแก้ไขหรือมีคำสั่งในเรื่องนั้นอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่ศาลเห็นสมควร เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามฎีกาของผู้คัดค้านและสำเนามรณบัตรท้ายคำร้องของผู้ร้องฉบับลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ว่า ผู้ร้องถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560 ย่อมมีผลให้เงินของผู้ร้องจำนวน 400,000 บาท ที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ส่งมายังศาลชั้นต้นตามหมายแจ้งคำสั่ง เป็นทรัพย์มรดกของผู้ร้อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1600 และสิ้นสภาพจากเงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ บำเหน็จ เบี้ยหวัด หรือรายได้อื่นในลักษณะเดียวกันของข้าราชการ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 302 (2) ผู้ร้องประสงค์จะชำระค่าปรับจากเงินในบัญชีเงินฝากของผู้ร้องมาแต่ต้น และธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ได้ส่งเงินตามหมายแจ้งคำสั่งมายังศาลชั้นต้นเพื่อชำระค่าปรับครบถ้วนตามขั้นตอนของการบังคับคดีแล้ว จึงไม่จำต้องเพิกถอนการอายัดเงินในบัญชีเงินฝากของผู้ร้องอีก ฎีกาของผู้คัดค้านฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น