โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้กู้เงินจำเลย 200 บาท เอานา 1 แปลง ไปจำนองไว้กับจำเลย โดยมอบนาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยมาแต่เริ่มแรกกำหนดการไถ่ถอน 5 ปี ต่อมาโจทก์ได้เอาเงินเพิ่มจากจำเลยอีก 40 บาท คงถือปฏิบัติตามสัญญาเดิม เมื่อครบ 5 ปีโจทก์ไปไถ่ถอนที่นาจำเลยขอผัดไว้ เมื่อประมาณ 2 เดือนมานี้ โจทก์ไปขอไถ่คืนจำเลยไม่ยอมให้ไถ่ จึงขอให้บังคับจำเลยรับเงิน 240 บาท คืนนาให้โจทก์ จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ทำสัญญาจำนองที่พิพาทไว้200 บาทจริง ต่อมาโจทก์ได้ตกลงขายขาดโดยขอเพิ่มเงินอีก 40 บาท ได้พากันไปทำหนังสือสัญญาต่ออำเภอ ทางอำเภอแจ้งว่าจะต้องชันสูตรรังวัดและประกาศโฆษณาตามระเบียบ แต่โจทก์ต้องการเงินด่วนจึงเพียงแต่สลักหลังสัญญาเพิ่มเงินให้โจทก์รับไปก่อน หนี้ระหว่างโจทก์จำเลยเปลี่ยนแปลงไปแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 349 โจทก์หมดสิทธิที่จะไถ่คืน แม้จะไม่ฟังว่าขายขาด การที่โจทก์มอบนาให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ต้องถือว่าเป็นการขายฝากโจทก์ไม่เคยมาขอไถ่คืนเมื่อครบกำหนด 5 ปี โจทก์หมดสิทธิไถ่คืนและคดีของโจทก์ขาดอายุความแล้ว วันชี้สองสถาน คู่ความรับกันว่านารายพิพาทเป็นที่นามือเปล่า และจำเลยแถลงรับในข้อตามคำให้การของจำเลยว่า เดิมทำจำนองกัน ต่อมาโจทก์ตกลงขายขาดนารายพิพาทให้แก่จำเลยโดยเอาเงินเพิ่มอีก 40 บาท แต่ไม่ได้ทำหนังสือสัญญาขายขาดกันเพราะโจทก์ต้องการเงินด่วน แต่ได้ตกลงกันด้วยปากเปล่าก่อนไปทำสัญญาที่อำเภอว่าเป็นการขายขาด ซึ่งจำเลยจะขอสืบตามนี้ ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานทั้งสองฝ่าย แล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า จำเลยจะขอสืบว่าได้มีการขายขาดต่อกันแล้วได้หรือไม่ และสัญญาจำนองที่ผู้จำนองทำนาต่างดอกเบี้ย จะถือว่าเป็นแปลงหนี้ใหม่มาเป็นสัญญาขายฝากได้หรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ก่อนทำสัญญาเพิ่มเงินจำนอง โจทก์จะได้ตกลงขายที่รายพิพาทให้แก่จำเลย แต่เมื่อเกิดขัดข้องด้วยต้องรังวัดและประกาศโฆษณา แต่ต้องการเงินด่วน จึงได้ทำกรมธรรม์สัญญาเป็นการเพิ่มเงินจำนอง ดังนี้ เป็นการเปลี่ยนแก้และเลิกข้อตกลงเรื่องซื้อขายมาทำเป็นจำนองแล้ว จะนำสืบการซื้อขายอีกก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดี ข้อที่จำเลยโต้เถียงว่าเป็นเรื่องขายฝากนั้นกรมธรรม์รายนี้ทำเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 แล้วเรื่องนี้เป็นจำนอง ซึ่งโจทก์ผู้รับจำนองเอาที่รายพิพาทตราไว้แก่จำเลยผู้รับจำนอง เป็นประกันการชำระหนี้เท่านั้น แม้โจทก์จะได้มอบที่ดินให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ก็ไม่ทำให้การรับจำนองกลับกลายเป็นการขายฝาก
พิพากษายืน