โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจไถคราดต้นข้าวที่โจทก์ได้หักดำไว้ในนาที่พิพาทเสียหาย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๒๔
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ต้นข้าวในนาที่พิพาทนี้เป็นของจำเลยหว่านดำไว้ และจำเลยได้ครอบครองที่รายนี้มา ๑๐ ปีเศษแล้ว ศาลชั้นต้นเห็นว่านารายนี้ยังมีการแย่งกรรมสิทธิกันอยู่ จะฟังว่าเป็นของโจทก์ทีเดียวไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าที่รายนี้จะเป็นของใครเพราะไม่ใช่คดีบังอาจบุกรุก และข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้บังอาจไถคราด ทำให้ต้นข้าวเสียหาย จึงพิพากษาว่าจำเลยจึงมีผิดตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๒๔
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยรู้อยู่ว่าเป็นข้าวของโจทก์ และการที่จำเลยบังอาจคราดข้าวของโจทก์เสียหายเช่นนี้ ต้องมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ศาลฎีกาเห็นชอบด้วยข้อวินิจฉัยและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ทุกประการ จึงพิพากษายืน