เรื่อง  มีไม้แปรรูปไม่รับอนุญาต
โจทก์ฟ้องว่า  จำเลยกับพวกสมคบกันมีไม้สักซึ่งเป็นไม้หวงห้ามจำนวน ๒๗.๗๐ เมตรลูกบาศก์ไว้ในความครอบครองภายในเขตการควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่รับอนุญาต
จำเลยปฏิเสธ
ศาลจังหวัดนครสวรรค์พิจารณาคดีเรื่องนี้รวมกับคดีดำ  ๒๓๔๖/๒๔๙๘  ซึ่งนายดี  นายพุด  นายสิงห์เทาถูกอัยการฟ้องว่ากระทำผิดร่วมกับจำเลยในคดีนี้แล้ว  พิพากษาว่าจำเลยทั้ง ๕ ผิดตาม  พ.ร.บ.ป่าไม้  ๒๔๘๔  มาตรา ๔๘,๗๓  และ(ฉบับที่ ๓)  ๒๔๙๔  มาตรา ๑๗ ปรับคนละ ๕๐๐ บาท เพิ่มโทษ นายอัมพร  นายพุด จำเลยตาม  ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๗๒ อีก ๑ ใน ๓  เป็นปรับนายอัมพร  นายพุดจำเลยคนละ ๖๖๖.๖๖ บาท  ค่าปรับจัดการตาม  มาตรา ๑๘
จำเลยทั้ง ๕ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า  นายดี  นางสิงห์เทา  นายพุด  จำเลยเป็นแต่ลูกจ้างล่องแพ  ไม่ได้สมคบด้วย  จึงพิพากษาแก้ให้ปล่อยจำเลย ๓ คนนี้ นอกจากที่แก้คงยืน
นายอัมพร นายจันทร์จำเลยฎีกา  ศาลชั้นต้นสั่งว่าเป็นข้อเท็จจริง ต้องห้าม ไม่รับฎีกา  จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งศาลฎีกาสั่งรับฎีกาของนายจันทร์จำเลยคนเดียว  ในปัญหาข้อกฎหมายที่ว่า  นายจันทร์จำเลยเป็นผู้ขนย้านโดยอ้างว่าจัดการแทน  น.ต. ประดิษฐ์  จำต้องได้รับอนุญาตด้วยหรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่าตาม   พ.ร.บ.ป่าไม้  พ.ศ. ๒๔๘๔   ม. ๔๘  นั้น  การมีไม้แปรรูปจำนวนเกิน ๐.๒๐  เมตรลูกบาศก์ไว้ในครอบครอง  เว้นแต่จะได้รับอนุญาตนั้น ไม่จำกัดว่าต้องเป็นผู้แปรรูปไม้เอง  เป็นผู้ตั้งโรงแปรรูปไม้หรือตั้งโรงค้าไม้แปรรูป  ดังการกระทำที่กล่าวไว้ตอนต้นตาม มาตรานี้  และ ก.ม.ไม่ได้บัญญัติว่า  ผู้แปรรูปไม้  ฯลฯ  หรือมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองต้องเป็นเจ้าของไม้แปรรูปนั้น  ก.ม.บัญญัติเพียงว่าผู้ทำการแปรรูปไม้ ฯลฯ ตลอดจนผู้มีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองต้องได้รับอนุญาตตามความใน  พ.ร.บ.ป่าไม้ทั้งนั้น  เมื่อนายจันทร์  จำเลยไม่ได้รับอนุญาตก็ต้องเป็นความผิด  แม้นายจันทร์จำเลยจะเป็นเพียงผู้จัดการแทนผู้อื่นก็ดี
พิพากษายืน.