คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1) และมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คำร้องของผู้ร้องไม่มีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1) จึงให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง และยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของผู้ร้อง และมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "เห็นว่า การขออนุญาตยื่นอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกานั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ บัญญัติให้ผู้อุทธรณ์ทำเป็นคำร้องมาพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และส่งสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์และคำร้องแก่จำเลยอุทธรณ์แล้ว หากไม่มีคู่ความอื่นยื่นอุทธรณ์และจำเลยอุทธรณ์มิได้คัดค้านคำร้องดังกล่าวภายในกำหนดเวลายื่นคำแก้อุทธรณ์ และศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นการอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ก็ให้สั่งอนุญาตให้ผู้อุทธรณ์ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาได้ มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง คำสั่งของศาลชั้นต้นให้เป็นที่สุด คดีนี้ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายพร้อมกับยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ และส่งสำเนาอุทธรณ์พร้อมคำร้องของผู้ร้องให้คู่ความอื่นชอบแล้ว แต่สำหรับจำเลยที่ 2 นั้น ข้อเท็จจริงปรากฏตามรายงานการส่งหมายฉบับลงวันที่ 13 ตุลาคม 2546 ในสำนวนว่า เจ้าหน้าที่ศาลได้นำสำเนาอุทธรณ์และสำเนาคำร้องของผู้ร้องไปส่งให้แก่จำเลยที่ 2 โดยวิธีปิดหมาย โดยที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ส่งสำเนาอุทธรณ์โดยวิธีปิดหมายได้ แต่มิได้สั่งอนุญาตให้ส่งสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาแก่จำเลยที่ 2 โดยวิธีปิดหมาย การส่งสำเนาคำร้องดังกล่าวจึงไม่ชอบ ผลเท่ากับยังมิได้มีการส่งสำเนาคำร้องของผู้ร้องให้จำเลยที่ 2 มีโอกาสคัดค้านก่อน ซึ่งหากจำเลยที่ 2 คัดค้าน ศาลชั้นต้นก็ไม่อาจอนุญาตให้ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาตามคำร้องได้ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ในกรณีเช่นนี้ จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยมาตรา 223 ทวิ ไม่มีผลทำให้อุทธรณ์ของผู้ร้องขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าวโดยชอบได้ และถือได้ว่าเป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมในเรื่องการยื่นหรือการส่งคำคู่ความหรือเอกสารอื่น ๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ศาลฎีกาเห็นสมควรให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาในส่วนนี้ใหม่ให้ถูกต้อง"
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการส่งสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาของผู้ร้องให้แก่จำเลยที่ 2 แล้วมีคำสั่งคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาของผู้ร้องใหม่ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ.