โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 22,442.62 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 22,442.62 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 21,056.64 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 18 พฤษภาคม 2553) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติในชั้นฎีกานี้ว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้แทนนิติบุคคล จำเลยเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในจังหวัดระยองและค้างชำระค่าธรรมเนียมต่อใบอนุญาตโรงแรมและค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรมพร้อมดอกเบี้ยและเงินเพิ่ม
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า ได้ความตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แต่งตั้งนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการในเขตจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครเป็นนายทะเบียน จำเลยไม่ได้ให้การโต้แย้งข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงฟังได้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเป็นนายทะเบียนในเขตท้องที่จังหวัดระยองตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองจึงเป็นนายทะเบียนและมีอำนาจหน้าที่ตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติไว้โดยเฉพาะ ทั้งไม่มีบทกฎหมายใดให้บุคคลอื่นใช้อำนาจหน้าที่แทนได้
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรมในจังหวัดระยองชำระค่าธรรมเนียมต่อใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรมที่ค้างชำระ แต่โจทก์ไม่ใช่นายทะเบียนตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยชำระเงินค่าธรรมเนียมต่อใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรมได้ ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยไม่ได้ให้การในประเด็นข้อนี้ไว้โดยชัดแจ้ง ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคสอง ส่วนฎีกาในประเด็นอื่นของจำเลยไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่จำต้องวินิจฉัย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษามานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ