โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกหลายคนร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบซึ่งเป็นการพนันประเภท ข. อันดับที่ 16 ท้ายพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 โดยจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นและเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมโพยสลากกินรวบ 2 แผ่น ปากกา 1 ด้าม และเงินสดจำนวน 10 บาท เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำผิดเป็นของกลางขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 10,12, 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 80 ริบของกลางและสั่งจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นผู้ขายสลากกินรวบ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4,5, 6, 10, 12, 15 ลงโทษจำคุก 4 เดือน ของกลางริบ คำขอให้สั่งจ่ายสินบนนำจับให้ยก เพราะศาลมิได้พิพากษาลงโทษปรับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ส่วนของกลางเชื่อว่าเป็นทรัพย์ซึ่งได้ใช้ในการกระทำความผิด จึงให้ริบ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "โจทก์ไม่มีพยานยืนยันว่า จำเลยได้ขายสลากกินรวบแม้เจ้าพนักงานตำรวจจะไล่จับนายศิริซึ่งเป็นผู้ซื้อสลากกินรวบมาได้ในขณะนั้น นายศิริก็ให้การว่าได้มาซื้อสลากกินรวบที่บ้านจำเลย มิได้ระบุว่าซื้อจากจำเลย โจทก์ไม่ได้ตัวนายศิริมาสืบคงส่งแต่บันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนของนายศิริตามเอกสารหมาย จ.3เป็นพยานต่อศาล บันทึกคำให้การดังกล่าวเป็นเพียงพยานบอกเล่าซึ่งมีน้ำหนักน้อย ข้อเท็จจริงยังไม่พอฟังว่า นายศิริซื้อสลากกินรวบจากจำเลย ของกลางคืน โพย 2 แผ่น ธนบัตรใบละ 10 บาท 1 ฉบับและปากกาลูกลื่น 1 ด้าม ก็ไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นผู้เขียนโพยและขายโพยนั้น แม้จะฟังว่าจำเลยเขียนเลขสลากกินรวบไว้เพื่อขายแต่ยังไม่ทันลงมือขายก็ถูกจับ จำเลยก็ยังไม่มีความผิดฐานพยายามขายสลากกินรวบเป็นเพียงขั้นเตรียมการกระทำผิดเท่านั้น ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 394/2504 ระหว่าง อัยการจังหวัดเชียงราย โจทก์นายเสียงฟุง แซ่จอง จำเลย เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบและเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้จึงลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้"
พิพากษายืน.