ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ข้อเท็จจริงจากรายงานสืบเสาะฯ ประกอบดุลพินิจลงโทษ และข้อจำกัดการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในท้องสำนวนจากรายงานการสืบเสาะและพินิจของพนักงานคุมประพฤติ ศาลสามารถนำมาใช้ประกอบดุลพินิจในการกำหนดโทษได้โดยชอบ หาใช่เป็นการรับฟังข้อเท็จจริงนอกฟ้องนอกสำนวนไม่ถูกต้องตาม ป.วิ.อ. ไม่ ฎีกาของจำเลยที่ 2 ประสงค์ให้ศาลฎีกาใช้ดุลพินิจลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษให้แก่จำเลย 2 อันเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาล ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่มีลักษณะบิดเบือนให้เป็นปัญหาข้อกฎหมาย เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ไม่เกินห้าปี จึงห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง เว้นแต่ผู้พิพากษาคนใดซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์พิเคราะห์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา หรืออัยการสูงสุดลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาว่ามีเหตุสมควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 221 ก็ให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณาต่อไป การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2 โดยมิได้มีการปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.อ. มาตรา 221 ไม่ต้องด้วยบทบัญญัติของกฎหมาย