โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน ฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยได้รับโทษแล้วภายในเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษในคดีดังกล่าวจำเลยกระทำผิดในคดีนี้อีก ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7, 15, 66, 67, 97, 102, 103 สั่งริบเฮโรอีนของกลางและเพิ่มโทษจำเลย
จำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้องจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 7, 15, 66, 67, 97, 102 และ 103 ขณะกระทำผิดจำเลยอายุเพียง 17 ปี ลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 กึ่งหนึ่ง จำคุก4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี สำหรับคำขอให้เพิ่มโทษนั้นปรากฏว่าจำเลยกระทำผิดครั้งก่อนขณะอายุไม่เกิน 17 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 94 เพิ่มโทษไม่ได้ ให้ยกคำขอเสีย ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้เพิ่มโทษจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่าการเพิ่มโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522เป็นกฎหมายพิเศษ จึงนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 94 มาใช้บังคับไม่ได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกในคดีก่อนในขณะที่จำเลยมีอายุไม่เกิน 17 ปี แล้วมากระทำผิดในคดีนี้อีก จะเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ได้หรือไม่นั้น เห็นว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 94 ที่ไม่เพิ่มโทษผู้กระทำผิดขณะอายุยังไม่เกินสิบเจ็ดปี ไม่ว่าจะได้กระทำในครั้งก่อนหรือหลังนั้น คงเป็นเพราะเห็นว่าผู้กระทำผิดยังอ่อนอายุและความรู้สึกรับผิดชอบยังมีน้อย ทั้งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17 ก็ได้บัญญัติให้นำบทบัญญัติในภาค 1 อันรวมถึงมาตรา 94 ไปใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย เว้นแต่กฎหมายนั้น ๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ซึ่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 97 ก็มิได้บัญญัติเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 94 มาปรับแก่คดีนี้ด้วย
พิพากษายืน