โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกลักปลาไปจากบ่อล่อปลาของโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 83
เมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องและสั่งประทับฟ้องแล้ว คงทำการพิจารณาเฉพาะจำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 7 ที่ 8 และที่ 9 ส่วนจำเลยอื่น โจทก์ถอนฟ้อง และศาลจำหน่ายคดีเพราะโจทก์ทิ้งฟ้อง
จำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 7 ที่ 8 และที่ 9 ให้การปฏิเสธโดยต่อสู้ว่าจำเลยจับปลาในหนองน้ำสาธารณะ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งห้าคนนี้จับปลาในหนองโดยขาดเจตนาทุจริต พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยทั้งห้าจับหลาในหนองสาธารณะซึ่งโจทก์ได้ปกครองอยู่ จำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 7 ที่ 8 มีเจตนาทุจริต จึงมีความผิดส่วนจำเลยที่ 9 เป็นคนมาจากที่อื่น ไม่มีเจตนาทุจริต พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 7 ที่ 8 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 ให้จำคุกคนละ 3 เดือน แต่ให้รอการลงโทษไว้ภายในกำหนด 1 ปี
จำเลยที่ 2 และที่ 7 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ แล้วมีมติว่า หนองน้ำมาบทองที่โจทก์ฟ้องเป็นหนองน้ำสาธารณะ ปลาเข้ามาในหนองตามธรรมชาติโจทก์เพียงแต่ขุดลอกหนองกว้างยาวด้านละ 10 วา แม้โจทก์อาจมีเจตนาให้ปลาตกอยู่ในหนองในฤดูน้ำลดก็ตาม แต่โจทก์มิได้ขุดเป็นบ่อต่างหากหรือกั้นเขตเป็นสัดส่วน ปลายังอยู่ในหนองได้โดยอิสระ จะถือว่าปลาเป็นของโจทก์ยังไม่ได้ การที่จำเลยที่ 2 และที่ 7 จับปลาในหนองสาธารณะจึงไม่มีความผิด และกรณีนี้เป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยที่ 4 ที่ 8 จะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องตลอดไปถึงจำเลยที่ 4 ที่ 8 ด้วยได้
พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 7 ที่ 8 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์