โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2472 จำเลยได้จำนองที่ดินโฉนดที่ 5981 ตำบลพระโขนง อำเภอพระโขนง จังหวัดพระนคร ไว้กับนายจอน แอมดันลอบ เป็นเงิน 3,000 บาท ให้ดอกร้อยละ 84 สตางค์ต่อเดือน นายจอนเป็นตรัสตีกองมรดกพระยาวิสูตร์สาครดิษฐ์(กับตันบุช)บิดาโจทก์ผู้มรณะไปแล้ว นายจอนกลับไปอังกฤษมอบฝากกองตรัสท์ไว้กับนายเลาเด็น ต่อมานายเลาเด็นกลับไปอังกฤษได้มอบฝากกองตรัสท์ไว้กับสำนักงานทนายความตี เลดี้ แอนด์กิบบินส์ในพระนครให้ดูแลปกครอง ต่อมานายจอนและนายเลาเด็นถึงแก่มรณะ ตั้งแต่จำเลยจำนองถึงบัดนี้กว่า 5 ปี จึงขอให้ศาลพิพากษาให้ที่พิพาทหลุดเป็นสิทธิของโจทก์
จำเลยต่อสู้หลายประการแต่ที่เป็นประเด็นสำคัญมาสู่ศาลฎีกาคือโจทก์ไม่เคยบอกกล่าวแก่จำเลยก่อนฟ้อง
คู่ความรับกันว่า โจทก์ไม่เคยบอกกล่าวขอบังคับจำนองต่อจำเลย
ศาลจึงสั่งงดสืบพยาน และตัดสินให้โจทก์แพ้คดี
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
ตาม มาตรา 728 เมื่อจะบังคับจำนอง ผู้รับจำนองต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังลูกหนี้ก่อนว่าให้ชำระหนี้ภายในเวลาอันสมควร ซึ่งกำหนดไว้ในคำบอกกล่าวนั้น ถ้าลูกหนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าว ผู้รับจำนองจะฟ้องต่อศาลเพื่อให้พิพากษาสั่งให้ยึดทรัพย์สินซึ่งจำนองและให้ขายทอดตลาดก็ได้ โดยมาตรานี้โจทก์ยังไม่ได้บอกกล่าวจึงไม่มีสิทธิบังคับจำนอง แม้โจทก์จะฟ้องตาม มาตรา 729 แต่ มาตรา 729 นี้ก็ต้องอ่านควบกับ มาตรา 728 นั้นก็คือแม้จะบังคับคดีตาม มาตรา 729 โจทก์ก็ต้องบอกกล่าวตาม มาตรา 728 ดุจกัน เมื่อโจทก์ไม่บอกกล่าวให้จำเลยทราบก่อนฟ้อง โจทก์ก็ไม่มีสิทธิบังคับจำนอง จึงพิพากษายืน