โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้ามาก่อสร้างกระถางต้นไม้ในที่ดินของโจทก์เนื้อที่ 1 ตารางวาเศษ ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาท ทำที่ดินให้อยู่ในสภาพปกติ และห้ามมิให้จำเลยและบริวารเกี่ยวข้องอีกต่อไป กับให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 5,700 บาท และต่อไปอีกเดือนละ 1,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกจากที่ดินพิพาท
จำเลยให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นทางสาธารณประโยชน์ที่พลเมืองใช้ร่วมกันเดิมมีสภาพเป็นสะพานแล้วเปลี่ยนสภาพเป็นทางเดิน โจทก์ไม่อาจได้สิทธิหรือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายและจำเลยก่อสร้างกระถางต้นไม้ในที่ดินของจำเลยขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนกระถางต้นไม้ออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 103430 ตำบลมะขามหย่ง อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ของโจทก์และทำให้ที่ดินอยู่ในสภาพปกติ กับห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องอีกต่อไป ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 423 บาท และค่าเสียหายอีกเดือนละ 90 บาท แก่โจทก์ นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 3 เมษายน 2541) เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนกระถางต้นไม้ออกไปจากที่ดินของโจทก์ คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีมีปัญหาวินิจฉัยในข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยเพียงว่า ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องขับไล่บุคคลใดๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละสี่พันบาท จำเลยอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสอง นั้นไม่ชอบ เพราะตามบทกฎหมายดังกล่าวหมายถึงฟ้องที่ขอให้บังคับบุคคลออกจากอสังหาริมทรัพย์ แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อถอนกระถางที่อ้างว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปก่อสร้างออก มิได้ขอให้บังคับเอากับตัวจำเลยอุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงหรือไม่ เห็นว่า การฟ้องขับไล่บุคคลใดๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์ตามบทกฎหมายดังกล่าว เป็นการฟ้องขับไล่บุคคลไม่ว่าจะเป็นผู้บุกรุก ผู้เช่าหรือผู้อาศัยที่ไม่มีสิทธิจะอยู่ในอสังหาริมทรัพย์แล้วให้ออกไปจากอสังหาริมทรัพย์นั้น คำว่าบุคคลใดดังกล่าวจึงหมายถึงบุคคลที่อยู่ในอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสิ่งก่อสาร้างหรือทรัพย์สินที่บุคคลนั้นเข้าไปก่อสร้างหรือนำเข้าไปไว้ในอสังหาริมทรัพย์หรือการเพาะปลูกใดๆ ด้วย มิได้หมายถึงเฉพาะตัวบุคคลเท่านั้นดังที่จำเลยฎีกา คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปก่อสร้างกระถางต้นไม้ในที่ดินพิพาทของโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกไปกับยังขอให้ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าไปเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาทอีกต่อไปด้วย จึงเป็นฟ้องที่อยู่ในความหมายของคำว่า "ฟ้องขับไล่บุคคลใดๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์" ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสอง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยนั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น"
พิพากษายืน