โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้จอบตีศีรษะนายทองดีถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 คืนของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
นางล้อม ถองทอง ภริยาผู้ตายร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุก 15 ปี คำให้การของจำเลยในชั้นศาล และชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 10 ปี ของกลางคืนเจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มูลเหตุที่จะเกิดคดีนี้เนื่องจากจำเลยเปิดน้ำในนาของผู้ตายจนแห้งเพื่อนำเข้าไปใช้ในนาของตนเองซึ่งเป็นการกระทำอย่างเห็นแก่ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวไม่คำนึงถึงความเสียหายของผู้ตาย ตามคำเบิกความของตัวจำเลย เมื่อผู้ตายท้าจำเลย จำเลยก็ลุกขึ้นยืนและหันหน้าไปทางผู้ตายแสดงว่าจำเลยประสงค์จะต่อสู้กับผู้ตายจะอ้างว่ากระทำเพื่อเป็นการป้องกันตัวหาได้ไม่ และมูลเหตุเกิดจากการกระทำของจำเลยก่อนจึงไม่อาจอ้างว่าได้กระทำไปโดยเป็นการบันดาลโทสะ
ตามคำเบิกความของพยาน โจทก์ยืนยันว่า ผู้ตายล้มและจอบหลุดจากมือแล้วผู้ตายไม่อาจจะทำร้ายจำเลยได้ การที่จำเลยใช้จอบของผู้ตายตีผู้ตายขณะที่ผู้ตายล้มนอนอยู่ จึงมิใช่เป็นการป้องกันตัว
จำเลยใช้จอบตีศีรษะผู้ตายขณะที่ผู้ตายนอนอยู่ เป็นการเลือกทำร้ายผู้ตายในส่วนของร่างกายที่สำคัญ ปรากฏตามรายงานการชันสูตรพลิกศพท้ายฟ้องว่า กะโหลกศีรษะของผู้ตายแตกทั้งด้านซ้ายและขวาและฐานกะโหลกบริเวณดวงตาด้วย จนกะโหลกกดเนื้อสมองยุบสมองบวมช้ำมาก เหตุที่ตายก็เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนมากและมีเลือดออกในสมอง บาดแผลดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นว่าจำเลยตีผู้ตายโดยแรง แม้จำเลยจะตีผู้ตายเพียง 1 ที ผู้ตายก็ได้รับอันตรายจนถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
พิพากษายืน