ได้ความว่าเดิมศาลตัดสินให้จำเลยใช้เงินโจทก์จำเลยอุทธรณ์ ในระหว่างอุทธรณ์ผู้ร้องยื่นฟ้องจำเลยอีกสำนวนหนึ่ง ขอให้โอนสวนยาง ๔ แปลงนี้ให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องได้ยึดสวนยาง ๔ แปลงนี้ไว้ก่อนคำพิพากษา ในที่สุดศาลก็ได้ตัดสินให้โอนสวนยางให้แก่ผู้ร้องตามคำขอครั้นเมื่อศาลอุทธรณ์ตัดสินยื่นตามศาลเดิมในคดีของโจทก์โจทก์จึงยึดสวนยาง ๔ แปลงนี้บ้าง ผู้ร้อง ๆ คัดค้าน
ศาลล่างทั้ง ๒ สั่งให้ถอนการยึดขอโจทก์เสีย
โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายว่า ที่ศาลล่างสั่งถอนการยึดของโจทก์เสียนั้นมิชอบ เพราะ (๑) ในคำตัดสินที่ศาลสั่งให้จำเลยโอนสวนยางแก่ผู้ร้องก็โดยมีเงื่อนไขว่าฉะเพาะเมื่อจะโอนกันได้ เมื่อจะโอนกันมิได้โดยเหตุที่โจทก์ยึดสวนยางนี้ไว้แล้วดังนี้ ผู้ร้องก็มีสิทธิอย่างเจ้าหนี้อื่น ๆ เท่านั้น (๒) โจทก์มีสิทธิดีกว่าผู้ร้องตามประมวลแพ่ง ม.๒๕๓ (๕) เพราะศาลได้ตัดสินให้จำเลยใช้เงินสำหรับค่าเครื่องอุปโภคอันจำเปนประจำวันแก่โจทก์
ศาลฎีกาตัดสินยื่นตามศาลล่างว่า คำตัดสินที่ให้ผู้ร้องชนะคดีเปนคำตัดสินที่บังคับแก่ทรัพย์ และเปนคำบังคับการชำระหนี้โดยฉะเพาะเจาะจง และเมื่อไม่เปนการพ้นวิสัยที่จะโอนตามคำสั่งศาลได้แล้ว จำต้องปฏิบัติตาม และไม่ปรากฏว่าศาลตัดสินให้จำเลยใช้เงินโจทก์นั้น เปนเงินค่าเครื่องอุปโภคบริโภคอันจำเปนประจำวัน ตามประมวลแพ่ง ม.๒๕๘ จึงให้ยกฎีกาโจทก์เสีย