โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายเลื่อนผู้ตาย นายเลื่อนมาได้จำเลยเป็นนางบำเรอ มิใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิได้รับมฤดก เมื่อโจทก์ประกาศรับมฤดกที่ดิน จำเลยร้องขอรับมฤดกบ้าง ขอให้ห้ามและขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน
จำเลยให้การต่อสู้หลายประการ ด.ญ.ดนัยบุตร์จำเลยร้องสอดขอเข้าเป็นจำเลยร่วม โดยขอแบ่งมฤดกอ้างว่าเป็นบุตร์ของจำเลยเกิดแต่นายเลื่อนเจ้ามฤดก
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้นว่าจำเลยมิใช้ภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายเลื่อน ให้จำเลยออกจากที่ดินรายพิพาท คำขอของ ด.ญ.ดนัยที่ขอให้แบ่งมฤดก ให้ยกเพราะในชั้นนี้ยังไม่มีการแบ่งมฤดก
จำเลยและ ด.ญ.ดนัยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาข้อ ข.เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ไม่เกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ให้รับฎีกาฉะเพาะข้อ ก.จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งและขอให้พิจารณารวมกับฎีกาที่ศาลชั้นต้นสั่งรับ
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ในฎีกาข้อ ข. ปัญหาข้อเท็จจริงว่าจำเลยกับเจ้ามฤดกได้เสียเป็นสามีภริยากันในปี พ.ศ.๒๔๗๙ ดังศาลอุทธรณ์ชี้ขาดหรือไม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัวตามความหมายในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๘ วรรค ๒ การที่จำเลยเถียงว่า จำเลยมีสิทธิในมฤดกเพราะเป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น หาทำให้เป็นคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิ์ในครอบครัวไม่ ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยเสีย
ฎีกาข้อ ก.ของจำเลยคัดค้านว่า ศาลอุทธรณ์ไม่ยกอุทธรณ์ของ ด.ญ.ดนัยวินิจฉัยให้เป็นการไม่ชอบ เพราะ ด.ญ.ดนัยเป็นบุตร์ของเจ้ามฤดกโดยชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เจ้ามฤดกกับจำเลยอยู่กินด้วยกันไม่มีการสมรส ด.ญ.ดนัยก็เป็นบุตรนอกสมรส และ ด.ญ.ดนัยก็ไม่ได้กล่าวอ้างว่า ตนเป็นบุตร์ชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิ์ได้รับมฤดกโดยประการอื่น คำร้องสอดของด.ญ.ดนัยมีข้ออ้างเพียงว่าตนเป็นบุตร์ของจำเลยซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อศาลพิพากษาให้แบ่งมฤดกก็ให้แบ่งให้จำเลยในฐานะเป็นบุตร์ของผู้ตายด้วย ฉะนั้นเมื่อจำเลยซึ่งเป็นมารดาของ ด.ญ.ดนัย มิได้เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายผู้ตายแล้ว ด.ญ.ดนัย จึงไม่มีสิทธิ์ได้รับมฤดกของผู้ตายแต่ประการใดคดีไม่จำต้องมีการแบ่งมฤดก พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์