ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 5/2549 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 88/2550 ของสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างผู้ร้องและผู้คัดค้าน ในข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 5/2549 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 88/2550 ของสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม
ผู้คัดค้านอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิได้โต้เถียงกันในชั้นฎีการับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2546 ผู้ร้องทำสัญญาว่าจ้างผู้คัดค้านตกแต่งภายในอาคารชั้น 15 ถึง 16 โครงการเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ ซอยทองหล่อ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ต่อมาวันที่ 17 มกราคม 2549 ผู้คัดค้านเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ ขอให้วินิจฉัยให้ผู้ร้องจ่ายเงินค่าจ้างตามสัญญาเนื่องจากผู้คัดค้านทำงานเสร็จแล้ว ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านว่าผู้ร้องมิได้ผิดสัญญา แต่ผู้คัดค้านเป็นฝ่ายผิดสัญญาและทิ้งงานจึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างอีก พร้อมทั้งเรียกร้องแย้งให้ผู้คัดค้านชดใช้เงินค่าจ้างซึ่งผู้ร้องจ้างผู้อื่นให้เข้าทำงานแทนผู้คัดค้าน คณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาแล้วมีคำชี้ขาดให้ผู้ร้องชำระเงินให้แก่ผู้คัดค้าน 6,107,661.80 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ยื่นข้อเรียกร้อง ตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการท้ายคำร้อง
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้คัดค้านว่า ตามคำร้องของผู้ร้องมีเหตุที่ผู้ร้องจะขอให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสาม (1) (ง) หรือไม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้องว่า สัญญาจ้างระหว่างผู้ร้องและผู้คัดค้านข้อ 25 กำหนดว่า หากมีข้อพิพาทหรือข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสัญญาให้ระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ และผู้คัดค้านได้เสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม ว่า ผู้ร้องไม่ชำระเงินค่าจ้างส่วนที่เหลืออีก 6,910,928.90 บาท เงินประกันผลงาน 686,915.90 บาท กับเงินประกันผลงานซึ่งผู้ร้องได้จ้างผู้คัดค้านทำงานในส่วนที่ผู้รับจ้างอื่นทิ้งงานไว้ 46,417.01 บาท พร้อมดอกเบี้ยของเงินค่าจ้างนับแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 ถึงวันยื่นเสนอข้อพิพาท 518,275 บาท รวมเป็นเงิน 8,161,536.81 บาท ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่ผู้คัดค้านทำงานไม่เสร็จตามสัญญาและทิ้งงาน จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินใด ๆ อีก และเรียกร้องแย้งให้ผู้คัดค้านชดใช้เงินค่าจ้างและเงินค่าปรับรวมเป็นเงิน 16,669,800 บาท คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านได้ทำงานเสร็จตามสัญญาแล้ว จึงชี้ขาดให้ผู้ร้องชำระเงินค่าจ้างที่ยังค้างกับคืนเงินประกันผลงานให้แก่ผู้คัดค้านรวมเป็นเงิน 6,107,661.80 บาท คำวินิจฉัยชี้ขาดนี้จึงเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดผู้คัดค้านได้ทำงานแล้วเสร็จและมีสิทธิได้รับสินจ้างตามสัญญาหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามข้อสัญญา จึงไม่มีเหตุให้ศาลสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าวตามคำร้องของผู้ร้องได้ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านยังทำงานไม่เสร็จเรียบร้อยตามสัญญาเพราะมัณฑนากรหรือผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้าง คือ ผู้ร้อง ยังไม่ได้ออกหนังสือให้แก่ผู้คัดค้าน อันเป็นการเข้าไปวินิจฉัยเนื้อหาในประเด็นข้อพิพาทที่เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะอนุญาโตตุลาการโดยเฉพาะแล้วพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าวมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ข้ออื่นของผู้คัดค้านอีกเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง อุทธรณ์ของผู้คัดค้านฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ