ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบโทรศัพท์มือถือที่ใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดคดียาเสพติดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยพร้อมยึดเมทแอมเฟตามีนและโทรศัพท์เคลื่อนที่ 1 เครื่อง ที่จำเลยใช้เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการติดต่อสื่อสารเพื่อจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นของกลาง โดยได้ความจากพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยว่า จำเลยถูกตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนของกลางในกระเป๋าเดินทางของจำเลยขณะที่เจ้าพนักงานฝ่ายควบคุมทางศุลกากร ศูนย์บริการศุลกากรท่าอากาศยานดอนเมืองขอตรวจค้นกระเป๋าเดินทางของจำเลย และเจ้าพนักงานยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางซึ่งจำเลยแจ้งว่าใช้ติดต่อสื่อสารกับบุคคลที่ว่าจ้างให้จำเลยนำกระเป๋าดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักร โดยจำเลยให้การในชั้นสอบสวนว่า จำเลยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางในการติดต่อกับ ม. ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้จำเลยนำกระเป๋าใบดังกล่าวจากสาธารณรัฐอินเดียไปส่งให้ที่ประเทศมาเลเซีย โดย ม. จะให้ค่าจ้างเป็นเงิน 25,000 บาท และจำเลยทราบว่าภายในกระเป๋าดังกล่าวมีเมทแอมเฟตามีนของกลางซุกซ่อนอยู่ จำเลยจึงเดินทางเข้ามาในประเทศไทยก่อนเพื่อจะนำกระเป๋าใบดังกล่าวไปส่งให้แก่ชายไม่ทราบชื่อที่ประเทศมาเลเซีย พยานหลักฐานของโจทก์จึงรับฟังได้ว่าจำเลยได้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางเป็นเครื่องมือในการติดต่อรับมอบเมทแอมเฟตามีนของกลางจากสาธารณรัฐอินเดียเพื่อให้มาอยู่ในความครอบครองของจำเลยก่อนแล้วจึงนำเข้ามาในประเทศไทย ดังนี้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางจึงเป็นเครื่องมือเครื่องใช้หรือวัตถุอื่นใดซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนของกลางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายตามที่โจทก์ฟ้องโดยตรงอันพึงต้องริบตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 102