โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองบุกรุกเข้าทำนาในที่ดินซึ่งทางราชการประกาศหวงห้ามไว้  เป็นที่สาธารณประโยชน์สำหรับใช้เลี้ยงสัตว์  เจ้าพนักงานว่ากล่าวห้ามปราม  จำเลยก็ไม่เชื่อฟัง  ผู้ใหญ่บ้านผู้ดูแลที่สาธารณประโยชน์แห่งนี้ได้ร้องทุกข์แล้ว  ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา ๓๖๒
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่ามาตรา ๓๖๒  ดังที่โจทก์ฟ้องนั้นไม่ประสงค์ที่จะใช้แก่กรณีที่กระทำแก่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า  สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นมิใช่ทรัพย์สินในกรรมสิทธิ์ของบุคคลธรรมดาหรือทบวงการเมืองอันเป็นนิติบุคคลคนหนึ่งคนใดโดยเฉพาะ  การกระทำของจำเลยจึงมิใช่กระทำต่ออสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา ๓๖๒  จำเลยไม่มีความผิดตามฟ้อง    จึงพิพากษายืน