ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดนัดชำระหนี้สัญญาเช่าซื้อ สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายและราคารถยนต์เมื่อรถยนต์สูญหาย
จำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันรถยนต์ที่เช่าซื้อเอาประกันภัยไว้กับบริษัท ท.โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ชำระเบี้ยประกัน โจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ต่อมาจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญา และรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายไป ข้อสัญญาเช่าซื้อระบุว่า หากผิดนัดสองคราวติดต่อกันถือว่าสัญญาเลิกกันทันที ดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพราะการไม่ชำระหนี้ของจำเลยที่ 1 จนเป็นเหตุให้มีการเลิกสัญญาอันได้แก่ค่าใช้ทรัพย์ตลอดเวลาที่จำเลยที่ 1 ครอบครองทรัพย์อยู่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 391 วรรคสาม เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกันแล้ว จำเลยที่ 1ยังคงครอบครองรถยนต์ที่เช่าซื้ออยู่จนกระทั่งรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายไป อันเป็นความผิดของจำเลยที่ 1 โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคู่สัญญาให้ชดใช้ราคารถยนต์โดยตรงอยู่แล้วส่วนข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อที่ว่า หากเกิดการสูญหายหรือเสียหายใด ๆ โจทก์จะนำเงินที่ได้รับจากบริษัทประกันภัยมาใช้ในการซื้อรถยนต์ใหม่ แต่ถ้าค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับไม่พอที่จะซื้อรถยนต์ใหม่ได้ จำเลยที่ 1 ต้องออกเงินใช้จนครบนั้น เป็นข้อตกลงเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอก คือโจทก์ได้รับค่าสินไหมทดแทนเนื่องจากการสูญหายของรถยนต์ได้จากบริษัท ท. อีกทางหนึ่งด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 ซึ่งสิทธิของโจทก์จะเกิดขึ้นต่อเมื่อได้แสดงเจตนาแก่บริษัท ท. ว่าจะถือประโยชน์จากสัญญานั้นแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า โจทก์ขอให้จำเลยที่ 1ดำเนินการขอชดเชยค่าสินไหมทดแทนจากบริษัท ท. แต่จำเลยที่ 1ไม่ดำเนินการ อาจเป็นเหตุให้บริษัท ท. ยกข้อต่อสู้อันเกิดแก่สัญญาประกันภัยที่มีอยู่ต่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคู่สัญญาต่อสู้โจทก์ผู้รับประโยชน์ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 376 การที่โจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องให้บริษัท ท.ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจึงมีขั้นตอนและเสี่ยงต่อการที่โจทก์จะไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทนยิ่งกว่าโจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อการสูญหายของรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 เช่าซื้อไปโดยตรง โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวจากจำเลยที่ 1