โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิใช้และจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า "STAND UP" อ่านว่า "แสตน อัพ"อยู่ภายในกรอบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าประดิษฐ์เป็นเครื่องหมายการค้าของจำเลยทั้งสองกับสินค้าในจำพวก 8 ทั้งจำพวก ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันและแทนกันถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำขอเลขที่ 156404 ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลพิพากษาหากจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสอง กับห้ามจำเลยทั้งสองให้และจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า "STAND UP" อยู่ภายในกรอบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าประดิษฐ์กับสินค้าในจำพวก 8 ทั้งจำพวก
จำเลยทั้งสองให้การว่า เครื่องหมายการค้าที่จำเลยที่ 1ขอจดทะเบียนไม่เหมือนและไม่คล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์และไม่ทำให้สาธารณชนหลงผิด เพราะเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่ 1 มี 2 คำ แยกกันมิได้ติดกัน การเรียกขานหรืออ่านออกเสียง ความหมายหรือคำแปลและรูปแบบก็ต่างกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิใช้และจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า "STAND UP" ภายใต้กรอบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าประดิษฐ์เป็นเครื่องหมายการค้าของจำเลยทั้งสองกับสินค้าที่พิพาทกันในคดีนี้ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันและแทนกันถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำขอเลขที่ 156404 ภายใน30 วัน นับแต่วันที่ศาลพิพากษาหากจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสอง คำขอยื่นให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่ 1 เหมือนหรือคล้ายเครื่องหมายการค้าของโจทก์หรือไม่ปรากฏรูปแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 เป็นตัวอักษรโรมันคำว่า "STANLEY" อ่านว่า"แสตนเล่ย์" อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตรงกลางของด้านซ้ายและขวามีรอยหยักหักเหลี่ยมออกนอกกรอบ มีรูปลักษณะคล้ายใบมีดโกนพื้นเป็นสีทึบตัวอักษรโปร่งเรียงติดเป็นคำเดียวกัน ส่วนเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่ 1 ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 4เป็นตัวอักษรโรมันคำว่า "STANE UP" อ่านว่า "แสตน อัพ"อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตรงกลางขอบด้านซ้ายและขวามีรอยหยักมนครึ่งวงกลมอยู่ภายนอกกรอบ มีรูปลักษณะคล้ายไม้นวดแป้ง พื้นโปร่งไม่มีสี ตัวอักษร เป็นสีทึบและแยกออกจากกันเป็นสองส่วนสองคำ คือคำว่า "แสตน" กับคำว่า "อัพ" อยู่แยกต่างหากจากกัน จึงเห็นได้ในเบื้องต้นตามปกติวิสัยของบุคคลธรรมดาโดยเฉพาะผู้ที่เป็นช่างก่อสร้างและช่างไม้ที่ใช้สินค้าเทปตลับสินค้าวัดความยาวซึ่งมีโอกาสเห็นสินค้าชนิดนี้ในท้องตลาดและมีความชำนาญในการเลือกซื้อสินค้าดังกล่าวมากกว่าสาธารณชนโดยทั่วไป ย่อมต้องมีและควรใช้ความสังเกตเห็นข้อแตกต่างดังกล่าวได้โดยไม่ยากนัก แม้ชื่อสินค้าประเภทนี้จะเป็นภาษาต่างประเทศปรากฏอยู่ก็ตาม ศาลฎีกาเห็นว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่ 1 ไม่เหมือนและไม่คล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ จนถึงนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนให้หลงผิด หรือทำให้สับสนได้ว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่ 1คือเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ส่วนประเด็นที่ว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 หรือไม่นั้น เห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย เพราะแม้จะวินิจฉัยให้ก็ไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่วินิจฉัยให้
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์