โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยได้ทำสัญญาเข้าหุ้นส่วนกันตั้งโรงเรียนต่อมาจำเลยที่  ๓ จงใจละเมิดสาระสำคัญส่งสัญญาเข้าหุ้นส่วน  โดยจำเลยที่ ๑, ๒ ร่วมมือด้วย  และในที่สุดกระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งให้ปิดโรงเรียนนี้เพราะการปฏิบัติอันมิชอบของจำเลย  โจทก์เจรจากับจำเลยเพื่อเลิกหุ้นส่วนกันก็ไม่เป็นผล  ขอให้พิพากษาให้หุ้นส่วนสามัญรายนี้เลิกกัน  และดำเนินการชำระบัญชีโดยให้นายเล็กเป็นผู้ชำระบัญชีต่อไป
จำเลยให้การว่า  จำเลยมิได้จงใจละเมิดสัญญาเข้าหุ้นส่วน  กระทรวงศึกษาธิการสั่งปิดโรงเรียนเพราะความผิดของโจทก์เอง  สัญญาเข้าหุ้นส่วนรายนี้ได้เลิกไปแล้วเมื่อกระทรวงศึกษาธิการถอนในอนุญาตโรงเรียน  โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอให้ศาลสั่งเลิกอีก  หรือแม้จะถือว่าหุ้นส่วนยังไม่เลิก  โจทก์ก็เป็นฝ่ายละเมิดบทบังคับเองไม่มีสิทธิฟ้อง  ทั้งในการชำระบัญชีนั้น  หุ้นส่วนจะต้องร่วมกันชำระบัญชีหรือตกลงกันตั้งผู้ชำระบัญชีโดยเสียงข้างมาก  แต่โจทก์มิได้ปฏิบัติตามนี้  จะตรงมาฟ้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีหาได้ไม่  และบุคคลที่โจทก์เสนอมาในฟ้องก็ไม่เหมาะสม  ถ้าศาลเห็นควรตั้งผู้ชำระบัญชีก็ควรตั้งคนกลางที่เหมาะสมอย่างหัวหน้ากองหมายหรือกองบังคับคดีล้มละลายเป็นต้น  ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า  ก่อนฟ้องกระทรวงศึกษา ฯ ได้สั่งถอนในอนุญาตโรงเรียน  เป็นเหตุให้วัตถุประสงค์ในการตั้งหุ้นส่วนสิ้นสุดลง  ทั้งโจทก์จำเลยก็ได้เคยบอกเลิกและยินดีเลิกหุ้นส่วนกันแล้ว  หุ้นส่วนรายนี้จึงเลิกกันไปแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา ๑๐๕๕, ๑๐๕๖  สมควรจัดตั้งผู้ชำระบัญชีต่อไป  พิพากษาว่าห้างหุ้นส่วนสามัญรายนี้ได้เลิกกันแล้ว  ได้ดำเนินการจัดตั้งผู้ชำระบัญชีโดยถือคะแนนเสียงข้างมากของผู้เป็นหุ้นส่วน
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้ตั้งหัวหน้ากองหมายเป็นผู้ชำระบัญชีหุ้นส่วนรายนี้
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า  เป็นอันยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วว่าหุ้นส่วนรายนี้ได้เลิกกันตั้งแต่ก่อนฟ้อง  ฟ้องของโจทก์เฉพาะข้อนี้จึงตกไป  แม้จะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องข้อนี้  แต่ก็ยังมีข้อที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยต่อไปอยู่อีกว่าจะสมควรตั้งผู้ชำระบัญชีตามที่โจทก์ระบุชื่อขอมาหรือไม่  ซึ่งจำเลยต่อสู้ไว้เป็น ๒ ประเด็น คือ  โจทก์ไม่มาตกลงกับจำเลยตั้งผู้ชำระบัญชีโดยอาศัยเสียงข้างมาก  โจทก์จะตรงมาฟ้องขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชีไม่ได้  และ  ๒.  ถ้าศาลเห็นสมควรตั้งก็ควรตั้งคนกลางที่เหมาะสมอย่างหัวหน้ากองหมายหรือกองบังคับคดีล้มละลาย  ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อหุ้นส่วนเลิกกันแล้ว  ถ้าไม่มีเหตุที่จะงดเว้นการชำระบัญชีตามกฎหมาย  ก็ต้องจัดการชำระบัญชีโดยจะตกลงกันให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดด้วยกันเป็นผู้ชำระบัญชีหรือตกลงกันให้แต่งตั้งบุคคลใดอื่นเป็นผู้ชำระบัญชี  ในการตกลงกันแต่งตั้ง  ให้วินิจฉัยชี้ขาดโดยคะแนนเสียงข้างมากของผู้เป็นหุ้นส่วนและในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนไม่อาจตกลงกันอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวนั้นได้  ก็ชอบที่จะต้องนำคดีมาสู่ศาล  ขอให้แต่งตั้งผู้ชำระบัญชีต่อไปอันเป็นการใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๕๕   หาใช่ว่าจะต้องร่วมกันจัดตั้งผู้ชำระบัญชีโดยคะแนนเสียงข้างมากเสมอไปไม่  ที่กฎหมายระบุไว้ให้วินิจฉัยขาดโดยคะแนนเสียงข้างมากก็ชอบที่จะมาขอให้ศาลแต่งตั้งได้  คดีนี้เป็นกรณีที่ไม่อาจจะตกลงกันเองจัดตั้งผู้ชำระบัญชีตามมาตรา ๑๐๖๑ ได้สำเร็จ  โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีได้  คำขอท้ายฟ้องโจทก์ขอให้ตั้งนายเล็ก  ฝ่ายจำเลย (หุ้นส่วนฝ่ายข้างมาก)  คัดค้านว่าไม่เหมาะสม  ศาลก็ไม่ตั้ง  ที่ตั้งหัวหน้ากองหมายเป็นผู้ชำระบัญชี  ก็เป็นไปตามที่จำเลยตั้งประเด็นมาในคำให้การ  ทั้งโจทก์ก็แสดงว่าพอใจด้วย  จะกล่าวไม่ได้ว่าไม่สมควรหรือพิพากษาเกินคำขอของโจทก์  พิพากษายืน