โจทก์ฟ้องว่า ขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีไม้สักยังไม่แปรรูป ฐานแปรรูปไม้ และฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในความครอบครอง เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๘, ๖๙, ๗๓, ๗๔ ฯลฯ ริบของกลางและสั่งให้จ่ายเงินสินบนแก่ผู้นำจับด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๘, ๖๙, ๗๓, ๗๔ ฯลฯ จำเลยมีไม้สักยังไม่ได้แปรรูปกับไม้สักแปรรูปไว้ในความครอบครองในเวลาเดียวกัน ถือว่าเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา ๔๘ จำคุก ๒ ปี ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท และลงโทษข้อหาแปรรูปไม้ ๒ ปี ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท รวมจำคุก ๔ ปี ปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๒ ปี ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ๒ ปี ฯลฯ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยทุกกระทงตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ลงโทษฐานมีไม้สักยังไม่แปรรูป จำคุก ๒ ปี ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท ฐานแปรรูปไม้จำคุก ๒ ปี ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท ฐานมีไม้สักแปรรูปแล้ว จำคุก ๒ ปี ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท รวมจำคุก ๖ ปี ปรับ ๓๐,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๓ ปี ปรับ ๑๕,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ถ้ากักขังแทนค่าปรับให้กักขังมีกำหนด ๑ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว โจทก์ฎีกาความว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลย ๓ กระทง รวมโทษจำคุกเกินกว่า สองปีไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะรอการลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ที่ศาลอุทธรณ์รอการลงโทษให้จำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่าในกรณีผู้กระทำความผิดถูกลงโทษจำคุกหลายกระทงในคดีเดียวกัน การพิจารณาว่าจะรอการลงโทษได้หรือไม่ ต้องพิจารณาถึงโทษจำคุกในความผิดแต่ละกระทงที่ศาลลงแก่ผู้นั้น คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ๓ กระทง โทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน กว่า ๒ ปี จึงอยู่ในดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ที่จะรอการลงโทษให้ได้
พิพากษายืน