คดีนี้จำเลยเปนพลทหารถูกฟ้องหาว่าสมคบกับพวกพยายามลักทรัพย์
จำเลยให้การับสารภาพว่าจำเลยผู้เดียวทำผิดไม่ได้สมคบกับผู้ใด
โจทก์ขอสืบพะยานว่าจำเลยสมคบกับพวก
ศาลเดิมสั่งไม่ยอมให้โจทก์สืบ  เพราะเปนน่าที่ของจำเลยสืบต่างหาก  จึงตัดสินจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด๑๘เดือน
ศาลอุทธรณ์ตัดสินยกฟ้อง  อ้างพระธรรมนูญศาลทหารบก ม.๖ ว่าต้องฟ้องจำเลยยังศาลทหาร
ศาลฎีกาเห็นว่าตามพระธรรมนูญศาลทหารบก ม.๔๐ ว่าถ้าทหารทำผิดร่วมกับพลเรือนแล้วคดีไม่ต้องขึ้นศาลทหาร  เรื่องนี้ยังมีปัญหาว่าจำเลยทำผิดร่วมกับพลเรือนหรือไม่  จึงทำคำสั่งย้อนสำนวนให้ศาลเดิมสืบพะยานตามที่โจทก์ร้องขอไว้ แล้วส่งสำนวนมายังศาลฎีกาต่อไป